แคนาดา – เม็กซิโก เตรียมโต้กลับ! หลังสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า

                 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ทรัมป์ประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกขึ้นเป็น 25% รวมถึงจีนอีก 10% โดยเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 4 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แม้สามประเทศเป็นคู่ค้าด้านการเกษตรรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ การเสียภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้ราคาสินค้าของผู้บริโภคในสหรัฐฯ สูงขึ้นกว่าเดิม โดยทรัมป์กล่าวว่า การขึ้นภาษีนำเข้านี้เพื่อกดดันให้แคนาดาและเม็กซิโกหยุดการลักลอบเข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย รวมถึงหยุดการนำเข้าเฟนทานิล (Fentanyl) และยาอื่นๆ ในขณะเดียวกันเพื่อขจัดความไม่สมดุลทางการค้าและสนับสนุนเกษตรกรของสหรัฐฯ

                 ในทางกลับกัน Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีของแคนาดา กล่าวว่า แคนาดาตอบโต้กลับด้วยภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดา ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว และจะบังคับใช้ต่อไปจนกว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกการขึ้นภาษีนำเข้าต่อแคนาดา โดยการตอบโต้ครั้งนี้ไม่มีผลกับสินค้าที่อยู่ระหว่างการขนส่ง รวมถึงผักและผลไม้ แต่ส่งผลกับน้ำส้มจากรัฐฟลอริดา ทั้งนี้ หากสหรัฐฯ ยังคงขึ้นภาษีดังกล่าว ในอีก 21 วันแคนาดาจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 1.25 แสนล้านดอลลาร์แคนาดา และมาตรการตอบโต้ครั้งที่สองจะรวมถึงผักและผลไม้ด้วย    

                 อีกทั้งการขึ้นภาษีนำเข้าดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อเม็กซิโกอย่างมาก เนื่องจากเม็กซิโกเป็นแหล่งผลิตผลทางการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ โดยปี 2543 ถึง 2566 เม็กซิโกส่งออกผลผลิตทางการเกษตรไปสหรัฐฯ กว่า 91% และประมาณ 90% ของอะโวคาโดทั้งหมดที่บริโภคในสหรัฐฯ นำเข้าจากเม็กซิโก ทั้งนี้ Claudia Sheinbaum Pardo ประธานาธิบดีของเม็กซิโก ระบุว่า เม็กซิโกมีแผนที่จะตอบโต้สหรัฐ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด พร้อมติดตามท่าทีจากสหรัฐฯ ต่อไป

ที่มา : Freshplaza สรุปโดย : มกอช.