เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศระงับการนำเข้าแฮม เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์นมจากเยอรมนี หลังจากมีการยืนยันการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อย (Foot and Mouth Disease: FMD) ครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปีในฝูงกระบือ เขตชานเมืองกรุงเบอร์ลิน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในสหราชอาณาจักร แม้ว่าจะยังไม่มีรายงานการระบาดในปศุสัตว์ภายในประเทศ แต่มาตรการระงับการห้ามนำเข้าสินค้าดังกล่าวจะช่วยปกป้องเกษตรกรและประชาชนในสหราชอาณาจักรจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
โรคปากเท้าเปื่อยเป็นไวรัสที่รุนแรงและติดต่อได้ง่ายในปศุสัตว์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อวัว สุกร แกะ แพะ และสัตว์กีบคู่ แม้ว่าโรคนี้จะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์หรือความปลอดภัยด้านอาหาร แต่การระบาดอย่างรุนแรงในสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2544 ทำให้ต้องกำจัดสัตว์มากกว่า 6 ล้านตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการสูญเสียรายได้ของเกษตรกรจำนวนมาก
กระทรวงเกษตรของเยอรมนีรายงานว่า สถานการณ์ดังกล่าวทำให้การส่งออกนม เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น หนังสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเลือดมีข้อจำกัดในขณะนี้ และคาดว่าประเทศอื่น ๆ จะระงับการนำเข้าสินค้าเหล่านี้จากเยอรมนีในเร็ว ๆ นี้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ การระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ แฮม/แกมมอน เบคอน และซาลามีไปยังสหราชอาณาจักร จะส่งผลกระทบต่อการจัดหาสินค้า เนื่องจากเยอรมนีเป็นผู้ส่งออกเนื้อหมูรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหราชอาณาจักร โดยมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 18% และเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 12% โดยข้อมูลระบุว่า ระหว่างเดือนมกราคม-ตุลาคม 2567 สหราชอาณาจักรนำเข้าเนื้อหมูจากเยอรมนี 117,340 ตัน มูลค่า 448 ล้านปอนด์ (ประมาณ 546 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และผลิตภัณฑ์นม 130,000 ตัน มูลค่า 283 ล้านปอนด์ (ประมาณ 345 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
(1 ดอลลาร์สหรัฐ = 0.8220 ปอนด์)
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.