สำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารของสหภาพยุโรปหรือ EFSA กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของใช้ antimicromobial agent ในอาหารอาจนำไปสู่การทำลายภูมิต้านทานของมนุษย์ที่มีต่อเชื้อแบคทีเรียหรือ microbes อื่นๆ โดยแนะนำว่าควรมีการทำงานเพิ่มขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เรากินเข้าไปไม่เป็นตัวนำหรือ carrier สำหรับการต่อต้านสารต่อต้านจุลชีพ (antimicromobial- resistance agent) ซึ่งจะเปิดช่องให้ร่างกายรับความเสี่ยงด้านสุขภาพ
Alan Jones โฆษกของ EFSA กล่าวว่า การต้านทานสารต้านจุลชีพในปศุสัตว์เพิ่มสูงขึ้นซึ่งนั่นหมายความว่าความเสี่ยงที่อาหารที่มาจากสัตว์จะปนเปื้อนมีมากขึ้น ขณะเดียวกัน สารต้านจุลชีพก็จะมีผลน้อยลงในการรักษามนุษย์ แต่ก็ย้ำว่า ยังไม่มีความเสี่ยงโดยตรงจากการเพิ่มการต้านทานสารต้านจุลชีพในสัตว์ ไม่ใช่ 1 บวก 1 ต้องเป็น 2 เสมอ
ในรายงานของ EFSA จะกล่าวถึงกรณีของ Salmonella และ Campylobacter ซึ่งพบการต้านสารต้านจุลชีพเพิ่มขึ้นซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปในทำนองเดียวกันในมนุษย์ อย่างไรก็ตาม แบคทีเรียอื่นๆ เช่น MRSA ซึ่งไม่ใช่เชื้อที่ถือว่ามีความเสี่ยงในอาหารอาจกลายเป็นปัญหาขึ้นมาเนื่องจากมีการต้านทานสูงต่อสารต้านจุลชีพส่วนใหญ่ แต่ทั้งนี้ในรายงานของ EFSA ยังไม่ได้กล่าวว่ามีความเสี่ยงสำคัญสำหรับสุขภาพมนุษย์จากแบคทีเรียต่อต้านสารต้านจุลชีพในปัจจุบัน
จำเป็นจะต้องมีการทำงานร่วมกันระหว่าง EFSA กับผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ ในเรื่องการประเมินความเสี่ยงเพื่อหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ แต่โฆษก EFSA กล่าวว่า ไม่มีคำตอบเป็นสีขาวหรือสีดำสำหรับปัญหาที่เป็นไปได้นี้