TH EN
A A A

FDA เผยแพร่คู่มือปฏิบัติการติดฉลากสารก่อภูมิแพ้ ความปลอดภัยอาหาร และผลิตภัณฑ์ทางเลือกจากพืช

4 กุมภาพันธ์ 2568   

             องค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่คู่มือ 4 ฉบับ สำหรับภาคอุตสาหกรรมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เรื่อง Final Guidance for Industry: เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตามกฎระเบียบการติดฉลากอาหารที่เกี่ยวข้องกับสารก่อภูมิแพ้และอาหารทดแทนเนื้อสัตว์จากพืช รวมถึงกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของอาหารพร้อมรับประทานที่มีความชื้นต่ำ (Low Moisture Ready-to-Eat: LMRTE) โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

             ฉบับที่ 1 คำแนะนำสำหรับภาคอุตสาหกรรม (FDA-2022-D-0099): เอกสารถาม-ตอบเกี่ยวกับข้อกำหนดการติดฉลากสารก่อภูมิแพ้ในอาหารภายใต้พระราชบัญญัติอาหาร ยา และเครื่องสำอางฉบับที่ 5 โดยแนวทางการปฏิบัติฉบับใหม่นี้ จะเข้ามาแทนที่ฉบับเดิมที่ออกประกาศเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งข้อมูลที่เสริมเข้ามามีเนื้อหาครอบคลุม การติดฉลากสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร เช่น ถั่วเปลือกแข็ง งา นม ไข่ วัตถุเจือปนอาหารบางชนิด และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

             ฉบับที่ 2 คำแนะนำสำหรับเจ้าหน้าที่ FDA บุคคลที่สนใจ (FDA-2021-N-0553): แนวทางการประเมินความสำคัญต่อสุขภาพของประชาชนต่อสารก่อภูมิแพ้ในอาหารที่อยู่นอกเหนือจาก นม ไข่ ปลา หอยเปลือกแข็ง ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วลิสง ข้าวสาลี ถั่วเหลือง และงา

             ฉบับที่ 3 คำแนะนำสำหรับภาคอุตสาหกรรม (FDA-2024-D-2604): การพัฒนาและจัดทำโปรแกรมสุขอนามัยสำหรับอาหารพร้อมรับประทานที่มีความชื้นต่ำ (LMRTE) และการดำเนินการแก้ไขหลังพบการปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตอาหาร เช่น นมผงสำหรับเด็ก ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสุขอนามัยและควบคุมความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

             ฉบับที่ 4 คำแนะนำสำหรับภาคอุตสาหกรรม (FDA-2022-D-1102): การติดฉลากผลิตภัณฑ์ทางเลือกจากพืช รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ สำหรับไข่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล และผลิตภัณฑ์นม (ยกเว้นนมจากพืช) เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ผลิตในการตั้งชื่อและติดฉลากผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงเข้าใจธรรมชาติของอาหารทางเลือกจากพืช และความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์เหล่านี้

             ทั้งนี้ คำแนะนำในร่างดังกล่าวอยู่ระหว่างการรวบรวมความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หากมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะสามารถส่งความคิดเห็นต่อร่างแต่ละฉบับได้ที่เว็บไซต์ข้างต้น ภายในวันที่กำหนด และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ FDA

    
ที่มา : FDA สรุปโดย : มกอช.

 

บทความนี้มีประโยน์หรือไม่?