เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 สำนักงานมาตรฐานอาหารออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (FSANZ) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นด้านบรรจุภัณฑ์อาหาร 2 ประเด็น ได้แก่ ระบบการติดฉลาก (Health Star Rating : HSR) และข้อมูลโภชนาการ (Nutrition Information Panel : NIP) เพื่อปรับปรุงการติดฉลากโภชนาการและเพิ่มประสิทธิภาพในการแนะนำผู้บริโภคสำหรับการเลือกอาหารที่ดีสำหรับสุขภาพ โดยสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่ foodstandards.gov.au จนถึงวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568
ก่อนหน้านี้
การเปิดรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้สอดคล้องกับประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2567 (communique of outcomes issued in July 2024) ซึ่งคณะรัฐมนตรีด้านอาหาร (Food Ministers) ของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้เรียกร้องให้ FSANZ เริ่มดำเนินการเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการบังคับใช้ระบบ HSR หากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้ภายในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 มีผลิตภัณฑ์ 70% สมัครใจนำฉลาก HSR มาใช้ ทั้งนี้ตามรายงานเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 มีผลิตภัณฑ์ในออสเตรเลียเพียง 32% และนิวซีแลนด์เพียง 30% เท่านั้นที่นำฉลาก HSR มาใช้ นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีด้านอาหารยังขอให้มีการทบทวน NIP ซึ่งถือเป็นการประเมินการแสดงข้อมูลโภชนาการในภาพรวมใหม่ทั้งหมดในรอบกว่า 20 ปี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาในการทำความเข้าใจและใช้ข้อมูล NIP สำหรับผู้บริโภค
ประเด็นสำคัญของการพิจารณา
o การรวมระบบ HSR ลงในกฎหมายมาตรฐานอาหาร (Food Standard Code) : พิจารณาหาแนวทาง ว่าจะสามารถรวมระบบ HSR เข้าสู่ Food Standard Code ได้อย่างไร
o ปรับปรุงข้อมูล NIP : ประเมินเนื้อหาและวิธีการแสดงข้อมูล NIP
o การรวมองค์ประกอบการติดฉลาก : พิจารณาว่าข้อมูลสารอาหารใน NIP สามารถสนับสนุนการติดฉลากอื่น ๆ ได้อย่างไร เช่น HSR และการกล่าวอ้างทางโภชนาการ
ทั้งนี้ จะมีการพิจารณาข้อมูลหลักฐาน การวิจัยผู้บริโภค การประเมินทางเทคนิค และการปรึกษาหารือกับสาธารณะเพิ่มเติมอย่างครอบคลุม
ขั้นตอนและระยะเวลา
ผลของการเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในรายงานซึ่งคาดว่าจะเผยแพร่ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2569 ซึ่งจะรวมถึงผลการติดตามความคืบหน้าการใช้งานฉลาก HSR ในปี พ.ศ. 2568 รายงานฉบับนี้จะระบุผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้านอาหาร ว่าจะมีการบังคับให้ต้องใช้ระบบ HSR หรือไม่ และรายงานรายละเอียดของ NIP ที่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ หากรัฐมนตรีด้านอาหารตัดสินใจให้บังคับใช้ HSR และเห็นควรมีการปรับปรุง NIP หน่วยงาน FSANZ จะดำเนินการแก้ไขกฎหมายมาตรฐานอาหาร ต่อไป
ที่มา : Food.chemlinked สรุปโดย : มกอช.
