ฟื้นเอฟทีเอ‘ไทย-สหรัฐ’

             ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์จัดตั้งกลไกอย่างไม่เป็นทางการ ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส เพื่อเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรีทวิภาคีไทย– สหรัฐฯ  ต่อไปหลังจากที่การเจรจาหยุดชะงักมาตั้งแต่ปี 2549 เนื่องจากมีการปฏิวัติ ทั้งนี้ จะมีการหารือเรื่องของปัญหาข้อกังวลความร่วมมือทางการค้า และเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ซึ่งจะไปสู่การขยายการลงทุนและเสริมสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน อย่างไรก็ตาม หากมีประเด็นทางการค้าที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นก็สามารถเชิญผู้เกี่ยวข้องร่วมหารือได้ทันที
             เมื่อวันที่ 12-13 มิถุนายน 2551 นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางไปหารือกับนางบาบารา ไวเซล ผู้ช่วยผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์)  ภูมิภาคเอเชียใต้และแปซิฟิกในประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้า  อย่างไรก็ตาม การเจรจาเอฟทีเอไทย-สหรัฐฯ ยังไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการ เนื่องจากมีผลดีต่อการค้าและการลงทุนของประเทศไทยให้ขยายตัวได้ดีขึ้น
            ปัจจุบันไทยมีการทำเอฟทีเอกับหลายประเทศ อาทิ จีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ขณะที่อยู่ระหว่างการเจรจากับอีกหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ โดยที่ล่าช้าเนื่องจากไม่สามารถตกลงกันได้ในสินค้าบางหมวด เช่น สินค้าเกษตร สินค้าบริการ การเปิดเสรีทางการเงิน และการเปิดเสรีการลงทุน แม้สหรัฐฯจะกดดันไทยอย่างหนักทั้งผ่านการเจรจาภาครัฐและภาคเอกชน แต่ก็ไม่สามารถหาข้อยุติได้
            ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ  หยุดการเจรจาเอฟทีเอกับไทยในช่วงรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ภายหลังรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารสหรัฐฯ  ก็ยังไม่มีการเดินเครื่องเจรจารอบใหม่ ทั้งนี้ ปัญหาอีกส่วนหนึ่งเกิดจากขณะนี้สหรัฐอยู่ระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่แทนนายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งกำลังจะพ้นจากตำแหน่ง ทำให้ยังไม่ทราบว่านโยบายของรัฐบาลใหม่จะยังคงสนับสนุนเอฟทีเอต่อไปหรือไม่ ส่งผลให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก

ที่มา  :  โพสต์ทูเดย์