หน่วยงานกำกับและดูแลตลาด (Administration for Market Regulation) ในเมืองและมณฑลต่างๆ ของจีน ได้สุ่มตัวอย่างอาหารที่มีการจำหน่ายในท้องตลาดเพื่อตรวจสอบด้านความปลอดภัยของอาหาร โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบว่า ลำไยของไทยที่จำหน่ายในร้านสาขาที่ถูกสุ่มตรวจ จำนวน 29 สาขา มี 10 สาขา
ที่ตรวจพบซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตกค้างเกินค่ามาตรฐาน และ 1 สาขา ที่ตรวจพบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งผู้ประกอบการจีนได้นำลำไยที่เกินมาตรฐานออกจากชั้นวางจำหน่าย พร้อมทั้งดำเนินการสุ่มตรวจสารตกค้างในลำไยที่อยู่ในศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ หากพบว่ามีค่าเกินมาตรฐานจะไม่นำออกจำหน่ายและระงับการจัดซื้อลำไยจากไทยทันที ซึ่งตามมาตรฐานความปลอดภัยอาหารแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GB2760 - 2014) กำหนดปริมาณสูงสุดที่ตกค้างของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไม่เกิน 0.05 กรัม/กิโลกรัม
การสุ่มตรวจครั้งนี้กระจายอยู่ในมณฑลต่างๆ ของจีน ประกอบด้วย มณฑลเสฉวน มณฑลกวางตุ้ง มณฑลหูหนาน มณฑลเหอหนาน มณฑลอันฮุย มณฑลซานซี มณฑลเจียงซี และนครเซี่ยงไฮ้ โดยสาขาที่พบซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตกค้างเกินมาตรฐาน ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน นครเซี่ยงไฮ้ และพบสารกำจัดศัตรูพืชเกินมาตรฐาน ตั้งอยู่ในมณฑลซานซี และ ตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) ได้แจ้งผลการสุ่มตรวจพบสารกำจัดศัตรูพืชและซัลเฟอร์ไดออกไซด์เกินค่ามาตรฐานจากลำไยที่ส่งออกมาจากไทยอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าที่ตรวจพบจะถูกกักเพื่อดำเนินการให้ได้ตามมาตรฐาน หรือถูกปฏิเสธการนำเข้าและถูกตีกลับ
จีนให้ความสำคัญและมีความเข้มงวดด้านความปลอดภัยอาหารเป็นอย่างมาก ทั้งในส่วนของจุดนำเข้าที่มีการสุ่มตรวจและยกระดับมาตรการตรวจสอบนำเข้าสินค้า เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่นำเข้าเป็นไปตามมาตรฐาน รวมทั้ง ยังมีการสุ่มตรวจสินค้าในตลาดอย่างต่อเนื่อง เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคชาวจีน ดังนั้น ไทยในฐานะผู้ส่งออกลำไยอันดับ 1 จะต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับการปฏิบัติให้เป็นไปมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร
เพื่อรักษาตลาดส่งออกและชื่อเสียงด้านคุณภาพของสินค้าในตลาดจีนต่อไป
ที่มา : ฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว สรุปโดย มกอช.