เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แหล่งข่าวของรัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า อินเดียกำลังพิจารณาเพิ่มภาษีนำเข้าน้ำมันพืช เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาเมล็ดพืชน้ำมันที่ลดลง ซึ่งแผนการดังกล่าวถูกเสนอโดยกระทรวงเกษตรของอินเดียและอยู่ระหว่างการพิจารณาจากกระทรวงการคลัง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นในช่วงปลายปีนี้ ทั้งนี้ อาจส่งผลให้ความต้องการและการนำเข้าน้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันดอกทานตะวันลดลง
ในปี 2565 อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันพืชรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันพืชดิบขั้นพื้นฐาน เพื่อควบคุมราคาในประเทศ แต่ยังคงเรียกเก็บภาษีโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตร 5.5% ในรัฐนิวเดลี ปัจจุบันราคาถั่วเหลืองอยู่ที่ประมาณ 4,200 รูปี (50 ดอลลาร์) ต่อ 100 กิโลกรัม ซึ่งต่ำกว่าราคาที่รัฐกำหนดไว้ที่ 4,892 รูปี ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก อีกทั้ง การเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองในฤดูกาลใหม่เริ่มใกล้เข้ามายิ่งจะส่งผลให้ราคาลดลงอีกอย่างไรก็ตาม เกษตรกรเชื่อว่าการเพิ่มภาษีน้ำมันพืชจะช่วยหยุดยั้งการลดลงอย่างรวดเร็วของราคาถั่วเหลืองในประเทศ
อินเดียพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันพืชมากกว่า 70% โดยการนำเข้าในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 22.2% สู่ระดับ 1.9 ล้านตัน ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่มีการบันทึกไว้ อินเดียนำเข้าน้ำมันปาล์มจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยเป็นหลัก ขณะที่นำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันดอกทานตะวันจากอาร์เจนตินา บราซิล รัสเซีย และยูเครน
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.