เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 สำนักงานอาหารสิงคโปร์ (SFA) ได้แก้เงื่อนไขการนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก ซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันที โดยเตือนผู้ที่นำเข้า ให้นำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากแหล่งที่ SFA อนุญาตเท่านั้น และใบรับรองด้านสุขภาพสัตว์ในปัจจุบันที่ออกโดยประเทศผู้ส่งออกยังใช้ได้อยู่
ประเด็นหลักที่มีการปรับแก้ไข
เงื่อนไขการนำเข้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก
- ประเทศผู้ส่งออกต้องมีการแจ้งเตือนการระบาดของไวรัสไข้หวัดนก
- ประเทศนั้นต้องปลอดเชื้อไข้หวัดนก ในระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา หากเกิดการระบาดของโรคอีกครั้งสามารถกลับมาทำการค้าได้ หลังจากปลอดเชื้อไข้หวัดนกไปแล้ว 28 วัน และผลิตภัณฑ์นั้นต้องผ่านการบำบัดด้วยความร้อนให้เพียงพอต่อการฆ่าเชื้อ
- ประเทศนั้นต้องไม่ใช้วัคซีนไข้หวัดนก หรือถ้าใช้ต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการอนุญาตใช้กับสัตว์ปีก ซึ่งควรเป็นวัคซีนชนิดที่ไม่มีชีวิตหรือวัคซีนชนิดเชื้อมีชีวิตที่อ่อนฤทธิ์ และเป็นไปตามคู่มือของ WOAH (WOAH Terrestrial Manual)
- สัตว์ปีกจะต้องเกิดและดูแลโดยประเทศต้นทาง
- ต้องไม่พบการติดเชื้อและโรคติดต่อทั้งก่อนและหลังเชือด
- การเชือด การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ ต้องดำเนินงานภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์
- ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปที่ผ่านการหมัก (เช่น เนื้อสัตว์กระป๋อง) ต้องผ่านการบำบัดด้วยความร้อน (ฆ่าเชื้อไม่น้อยกว่า F_03) ภายในภาชนะที่ปิดสนิท และจัดเก็บได้ในอุณหภูมิห้อง
- การลดจำนวนจุลินทรีย์ก่อโรค (PRTs) สามารถทำได้กับเนื้อสัตว์ที่ยังไม่ผ่านการแปรรูปเท่านั้น และต้องผ่านการอนุมัติจาก SFA
เงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับการนำเข้าสัตว์ปีกแช่แข็ง
ผลิตภัณฑ์ต้องไม่มีการละลายมาก่อน และมีการบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่แน่นหนาป้องกันการรั่วไหล โดยมีอายุการเก็บรักษาอย่างน้อย 10 วัน ที่อุณหภูมิ 4℃ หรือต่ำกว่าจากวันที่บรรจุ
ที่มา : Food.chemlinked สรุปโดย : มกอช.