รายงานเรื่อง แนวโน้มและสถานการณ์ปุ๋ยของโลกถึงปี 2554/55 ของ FAO ระบุว่า ผลผลิตปุ๋ยของโลกจะเพิ่มขึ้นพอเพียงตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในระยะ 5 ปีข้างหน้าและจะสนับสนุนการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงชีวภาพที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ระบุว่า ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีมานี้จะนำไปสู่การเพิ่มการผลิตสินค้าต่างๆ ซึ่งย่อมส่งผลต่อการใช้ปุ๋ยเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะทำให้ตลาดปุ๋ยตึงตัวและราคาสูงขึ้น และคาดว่าความต้องการพืชอาหารพื้นฐาน ผลไม้ และผัก พืชอาหารสัตว์ และพืชพลังงานจะยังคงสูงอยู่ ดังนั้นจะมีการเพิ่มการผลิตปุ๋ยเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น
มีการคาดการณ์ว่าอุปทานปุ๋ยของโลกทั้งปุ๋ยไนโตรเจน ปุ๋ยฟอสเฟต และปุ๋ยโปตัสเซียมจะเพิ่ม 34 ล้านตัน (ไนโตรเจนจะเพิ่มขึ้น 23.1 ล้านตัน ฟอสเฟตเพิ่มขึ้นเป็น 6.3 ล้านตัน และโปแตสเพิ่มขึ้น 4.9 ล้านตัน ) โดยมีอัตราเพิ่มต่อปี 3% ระหว่างปี 2550/51 2554/55 ทำให้ผลผลิตเพิ่มจาก 206.5 ล้านตันในปี 2550/51 เป็น 241 ล้านตันในปี 2554/55 ในขณะที่ความต้องการหรืออุปสงค์เพิ่มจาก 197 ล้านตันเป็น 216 ล้านตันในช่วงเดียวกัน
อาฟริกายังคงเป็นผู้ส่งออกฟอสเฟตที่สำคัญและเพิ่มการส่งออกไนโตรเจนขณะที่นำเข้าโปแตสทั้งหมด การใช้ปุ๋ยในอาฟริกาส่วนใหญ่จำกัดอยู่ที่ 10 ประเทศ โดยรายใหญ่ คือ อียิปต์ อาฟริกาใต้ มอรอคโค คาดว่าอเมริกาเหนือยังคงเป็นผู้นำเข้าสุทธิไนโตรเจน และยังคงขาดดุลฟอสเฟตเพิ่มขึ้นขณะที่ยังคงสถานภาพเป็นผู้ผลิตโปแตส คาดว่าเอเชียจะผลิตไนโตรเจนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงนำเข้าฟอสเฟตและโปแตส
ที่มา : Far Eastern Agriculture