กระทรวงการเกษตรและเกษตร-อาหารของแคนาดา (Ministry of agriculture and Agri-Food) ได้ประกาศแผนการที่อุดหนุนอุตสาหกรรมนม สัตว์ปีก และไข่ โดยใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อการลงทุนในการจัดการอุปทาน (SMPIF) จำนวน 89 ล้านดอลลาร์แคนาดา (เกือบ 2.4 พันล้านบาท) ที่มีเป้าหมายให้การสนับสนุน 49 โครงการทั่วประเทศ
แผนดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตที่ได้รับผลกระทบจากข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศที่ผ่านมา รวมถึงความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างแคนาดา-สหภาพยุโรป (CETA) ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) และความตกลงแคนาดา-สหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก (CUSMA) โดยเป็นแผนในลักษณะเดียวกับมาตรการที่นำมาใช้กับผู้แปรรูปสัตว์ปีก ไข่ และผลิตภัณฑ์นมในปี 2563
รัฐบาลกล่าวว่า เงินสนับสนุนเหล่านี้จะช่วยปรับปรุงการผลิตให้มีความทันสมัย ลดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแก่เกษตรกรชาวแคนาดา โดยเกษตรกรสามารถใช้เงินทุนดังกล่าวเพื่อซื้อและติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ จัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและแรงงาน ตลอดจนเพิ่มกำลังการผลิตให้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุน เช่น หุ่นยนต์สำหรับบรรจุภัณฑ์ เครื่องพาสเจอร์ไรส์นม เครื่อง ultrafiltration equipment และเครื่องคัดแยก ตั้ง และตอกไข่ โดยสามารถยื่นใบสมัครขอรับเงินทุนได้แล้ว
ตั้งแต่มีการเปิดตัวในปี 2565 โครงการของ SMPIF ใช้งบประมาณเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตสินค้าเกษตรและอาหารที่ได้รับผลกระทบจากข้อตกลงทางการค้าไปแล้ว 397.5 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 1.517 หมื่นล้านบาท) และเดือนตุลาคม 2566 แคนาดาประกาศว่า ในช่วง 10 ปีข้างหน้าจะจ่ายเงินสูงถึง 333 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 8.813 พันล้านบาท) ให้กับผู้ผลิตนม เพื่อเป็นค่าชดเชยสำหรับการปฏิบัติตามความตกลงทางการค้า ปัจจุบันการผลิตนมและสัตว์ปีกของแคนาดามีมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 3.704 แสนล้านบาท) และทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 1,000 อัตรา
ที่มา : Just Food สรุปโดย : มกอช.