เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 รัฐสภายุโรปและคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวัตถุดิบในอาหารเช้า หรือ Breakfast Directives ครอบคลุมอาหารหลายประเภท อาทิ น้ำผึ้ง น้ำผลไม้ และแยม รายละเอียดดังนี้
1. น้ำผึ้ง
ปัจจุบัน สหภาพยุโรปได้มีการนำเข้าน้ำผึ้งจากประเทศที่สามซึ่งต้องสงสัยว่ามีน้ำตาลเจือปนสูง จึงมีข้อเสนอให้ผู้ผลิต “ติดฉลากระบุประเทศแหล่งที่มาของน้ำผึ้ง” แทนการระบุว่าเป็นสินค้าที่มาจากภายในสหภาพยุโรปหรือภายนอกสหภาพยุโรป ในกรณีน้ำผึ้งผสม จะต้องระบุร้อยละของน้ำผึ้งที่มาจากประเทศต้นกำเนิดอย่างน้อย 4 อันดับแรก หากรวมทั้ง 4 อันดับแล้วปริมาณยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของน้ำผึ้งทั้งหมด จะต้องระบุแหล่งที่มาทุกประเทศต้นกำเนิดบนฉลาก เพื่อจำกัดการฉ้อโกงด้านอาหาร ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะเสนอรหัสเฉพาะเพื่อให้สามารถติดตามน้ำผึ้งกลับไปยังผู้เลี้ยงผึ้งหรือผู้นำเข้า เพื่อปรับปรุงการควบคุมตรวจจับการปลอมปนในน้ำผึ้งต่อไป
2. น้ำผลไม้ แยม และแยมผิวส้ม
• สำหรับการผลิตแยมและแยมผิวส้ม จะต้องใช้ผลไม้อย่างน้อย 450 กรัม ต่อการผลิตแยม 1 กิโลกรัม (500 กรัม สำหรับ “แยมพิเศษคุณภาพสูง หรือ extra jam”)
• อนุญาตให้ใช้ฉลาก “ประกอบด้วยน้ำตาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเท่านั้น (contains only naturally occurring sugars)” กับน้ำผลไม้
• อนุญาตให้ใช้ฉลาก “น้ำผลไม้ลดน้ำตาล (reduced-sugar fruit juice)” กับน้ำผลไม้ปรับปรุงสูตร หาก มีการกำจัดน้ำตาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติออกไปอย่างน้อย 30% นอกจากนี้ จะไม่อนุญาตให้ผู้ผลิตใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลเพื่อทดแทนน้ำตาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่สูญเสียไป
ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวจะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภายุโรปและคณะมนตรีสหภาพยุโรปอีกครั้ง จึงจะประกาศใช้ โดยจะมีช่วงเปลี่ยนผ่านให้ประเทศสมาชิกปรับใช้ประมาณ 24 เดือน
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://www.europarl.europa.eu/news/en/press-room/20240129IPR17211/honey-labelling-deal-with-council-on-measures-to-combat-fraud
ที่มา : กลุ่มนโยบายระหว่างประเทศที่ 4 / สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป สรุปโดย : มกอช.