สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา (สว.) นาย John Kennedy (R-Louisiana) ได้เสนอร่างกฎหมายที่จะจัดสรรเงินเพิ่มเติมจำนวน 36 ล้านเหรียญสหรัฐ (3.2 พันล้านบาท) สำหรับการตรวจสอบกุ้งและปลากะพงแดงนำเข้า ภายใต้โปรแกรมการตรวจติดตามสินค้าประมงนำเข้า หรือ SIMP (Seafood Import Monitoring Program) โดยระบุว่า ผู้ส่งออกสินค้าประมงรายใหญ่อย่างอินเดียและเอกวาดอร์ ได้จำหน่ายกุ้งผิดกฎหมายในราคาที่ต่ำกว่ากุ้งที่มีคุณภาพที่จับในพื้นที่ในสหรัฐฯ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภคชาวอเมริกันและเป็นการปกป้องอาชีพ รัฐบาลจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตรวจสอบการนำเข้า และนี่คือจุดประสงค์ของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว
โปรแกรม SIMP ริเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2559 กำหนดให้ผู้นำเข้าต้องรายงานข้อมูลโดยละเอียด ณ ด่านนำเข้าสหรัฐฯ ในสินค้าสัตว์น้ำ 13 กลุ่ม/สายพันธุ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยหน่วยงานด้านประมงขององค์การบริหาร มหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ หรือ NOAA (National Oceanic and Atmospheric Administration) ปราบปรามการนำเข้าสินค้าประมงและผลิตภัณฑ์ประมงที่ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบของสหรัฐฯ โดยในปีงบประมาณ 2563 ทีมตรวจสอบภายใต้โปรแกรม SIMP ของ NOAA ได้ดำเนินการตรวจสอบทั้งสิ้นกว่า 1,131 ครั้ง ด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจประเมินจำนวน 6 อัตรา แต่สามารถครอบคลุมเพียงร้อยละ 1 ของการนำเข้าทั้งหมดภายใต้โปรแกรม SIMP ในปีงบประมาณ นั้น สว. John Kennedy ได้ตั้งข้อสังเกตว่า กว่าร้อยละ 40 ของการตรวจสอบเหล่านั้นเป็นสินค้ากุ้ง และร้อยละ 33 ของสินค้ากุ้งเหล่านั้นไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสหรัฐฯ
ร่างกฎหมายใหม่นี้จะใช้งบประมาณจำนวน 36 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.2 พันล้านบาท) จากกรมสรรพากรสหรัฐอเมริกา หรือ IRS (Internal Revenue Service) ซึ่งจะช่วยให้ทีมตรวจสอบสามารถขยายการตรวจสอบจากร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 10 ของการนำเข้าทั้งหมดภายใต้โปรแกรม SIMP อย่างไรก็ตาม สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐพรรคเดโมแครตไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าว โดยแย้งว่า การตัดเงินทุนของ IRS จะส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันจำนวนมาก ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการการเงินของวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป
ภาคอุตสาหกรรมกุ้งภายในประเทศและฝ่ายนิติบัญญัติบางคนในสหรัฐฯ ได้ผลักดันให้รัฐบาลกลางดำเนินการกับกุ้งนำเข้าราคาถูก โดยอ้างว่า กุ้งราคาถูกเหล่านั้นกำลังทำให้ผู้ทำประมงกุ้งและผู้แปรรูปกุ้งในสหรัฐฯ ต้องเลิกกิจการ โดยคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (US International Trade Commission) และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ (U.S. Department of Commerce) เพิ่งเปิดให้ดำเนินการสอบสวนพิจารณาว่าสหรัฐฯ ควรบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (Antidumping - AD) และการตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing duties - CVD) กับการนำเข้ากุ้งน้ำอุ่นแช่แข็งที่นำเข้าจากเอกวาดอร์ อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม หรือไม่ หลังจากได้รับข้อร้องเรียนจากสมาคมผู้แปรรูปกุ้งแห่งอเมริกา (American Shrimp Processors Association) ทางสมาคมฯ ยังขอให้ชุมชนและรัฐบาลท้องถิ่นประกาศภาวะฉุกเฉินเกี่ยวกับการนำเข้ากุ้ง เพื่อกดดันรัฐบาลกลาง
ฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐบาลกลางหลายรายได้ออกกฎหมายเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมกุ้งในประเทศจากการแข่งขันจากต่างประเทศ โดย สว. Bill Cassidy (R-Louisiana) ได้นำเสนอร่างกฎหมายเพื่อต่อต้านการอุดหนุนของรัฐบาลอินเดียสำหรับ
ภาคการส่งออกกุ้งในขณะที่วุฒิสมาชิกคนอื่นๆ ได้เสนอร่างกฎหมายที่จะนำเงินที่เก็บจากภาษีกุ้งไปแจกจ่ายให้กับชุมชนที่ต้องพึ่งพาการทำธุรกิจประมง
ร่างกฎหมายของ สว. John Kennedy เกิดขึ้นหลังจากการตัดสินใจของ NOAA ที่จะระงับข้อเสนอการขยายขอบข่าย SIMP เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา หลังจากการตอบรับข้อคิดเห็นจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง ในขณะที่องค์กรที่ไม่หวังผลกำไรและฝ่ายนิติบัญญัติหลายคนเรียกร้องให้ขยายขอบข่าย SIMP แต่ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่เห็นว่าข้อเสนอของ NOAA ยังไม่ครอบคลุมมากเพียงพอ
ที่มา: สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประจำเดือนมกราคม 2567 สรุปโดย : มกอช.