สหภาพยุโรปอนุญาตสารเสริมในอาหารสัตว์

                    สหภาพยุโรปประกาศปรับแก้ไขกฎระเบียบโดยอนุญาตสารเสริมอาหารสัตว์ 4 รายการ ใน EU Official Journal L series โดยมีรายละเอียดดังนี้
                    1. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/2732 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Macleaya cordata mixture เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
                       1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of Macleaya cordata mixture เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยเพิ่มพารามิเตอร์สมรรถภาพสัตว์ (improvement of performance parameters) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ปีกทุกชนิดเพื่อขุน เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน 
                       2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดปริมาณการใช้งานขั้นต่ำสุดและขั้นสูงสุด ในสัตว์ปีกเพื่อขุน ดังนี้
                           (ก) ที่ปริมาณขั้นต่ำสุด 45 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความขึ้นร้อยละ 12)
                           (ข) ที่ปริมาณขั้นสูงสุด 150 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความขึ้นร้อยละ 12)
                       3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2566) ทั้งนี้ สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202302732
                    2. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/2733 ว่าด้วย การอนุญาต ให้ preparation of diclazuril (Coxiril) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ โดยมีรายละเอียดดังนี้ 
                       1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of diclazuril (Coxiril) เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่ม Coccidiostats และ Histomonostats และอนุญาตให้ใช้กับไก่เลี้ยงเพื่อไข่ และไก่ฟ้า เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
                       2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดปริมาณการใช้งานขั้นต่ำสุดและขั้นสูงสุด ในสัตว์ปีกที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 
                           (ก) ไก่เลี้ยงเพื่อไข่ ที่ปริมาณขั้นต่ำสุด 0.8 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12) และปริมาณขั้นสูงสุด 1.2 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12) 
                           (ข) ไก่ฟ้า ที่ปริมาณขั้นต่ำสุด 1 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12) และ ปริมาณขั้นสูงสุด 1.2 มิลลิกรัมของสาร/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
                       3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2566) ทั้งนี้ สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202302733
                    3. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/2734 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Saccharomyces cerevisiae DBVPG 48 SF เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
                       1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of Saccharomyces cerevisiae DBVPG 48 SF เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่มสารเสริมเฉพาะทางสำหรับสัตว์ (zootechnical additives) เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการย่อยอาหาร (digestibility enhancers) และอนุญาตให้ใช้กับม้า โคนม สัตว์ เคี้ยวเอื้องให้นม สุกรเพื่อขุน และแม่สุกรเพื่อเพาะพันธุ์ เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
                      2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดการใช้สารเสริมที่ระดับต่ำสุดในสัตว์ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 
                          - ม้า ที่ปริมาณขั้นต่ำสุด 3 x 109 CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความขึ้นร้อยละ 12)
                          - โคนม/สัตว์เคี้ยวเอื้องให้นม ที่ปริมาณขั้นต่ำสุด 4 x 108 CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
                          - สุกรเพื่อขุน ที่ปริมาณขั้นต่ำสุด 4 x 109 CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความชื้นร้อยละ 12)
                          - แม่สุกรเพื่อเพาะพันธุ์ 6 x 109 CFU/กิโลกรัมของอาหารสัตว์ (ที่มีความขึ้นร้อยละ 12)
                      3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2566) ทั้งนี้ สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202302734
                    4. Commission Implementing Regulation (EU) 2023/2736 ว่าด้วย การอนุญาตให้ preparation of Bacillus velezensis NITE BP-01844 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
                       1) คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นชอบให้ preparation of Bacillus velezensis NITE BP-01844 เป็นสารเสริมในอาหารสัตว์ (feed additive) ภายใต้กลุ่ม zootechnical additives เพื่อช่วยควบคุมเชื้อในกระเพาะ (gut flora stabilisers) และอนุญาตให้ใช้กับสัตว์ปีกทุกชนิดเพื่อขุน ไก่เลี้ยงเพื่อไข่ ไก่งวงเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์สัตว์ปีกวัยเยาว์เลี้ยงเพื่อไข่หรือเพาะพันธุ์ และนกสวยงาม เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่กฎระเบียบฯ มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2576 เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม สารดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการใช้งาน ผู้ใช้งานจึงควรสวมใส่ชุดป้องกัน
                       2) คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดให้ใช้สารเสริมดังกล่าวขั้นต่ำสุดที่ปริมาณ 2 x 109 CFU/กิโลกรัมของ อาหารสัตว์ (ที่มีความขึ้นร้อยละ 12) และที่ปริมาณ 1 x 108 CFU/ลิตรของน้ำดื่มสัตว์
                       3) กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2566) ทั้งนี้ สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ ดังนี้ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:L_202302736

ที่มา : สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป (สปษ. สหภาพยุโรป) สรุปโดย : มกอช.