กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA) เผยว่า สหรัฐฯ ได้ตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกในไก่งวงจำนวน 47,300 ตัว ในเขตเจอรัลด์ รัฐเซาท์ดาโคตา ถือเป็นการติดเชื้อครั้งแรกในฟาร์มสัตว์ปีกเชิงพาณิชย์นับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ฝูงไก่งวงที่ติดเชื้อจะถูกคัดออกเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานเนื้อสัตว์ปีกและไข่
รายงานของ USDA ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2565 ไก่ ไก่งวง และนกชนิดอื่น ๆ จำนวน 58.8 ล้านตัวในสหรัฐฯ ได้ถูกกำจัดทิ้งเนื่องจากโรคไข้หวัดนก ความสูญเสียเหล่านี้ทำให้ราคาไก่งวงและไข่ไก่สูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบด้านต้นทุนจากภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และทำให้เกษตรกรต้องเร่งเพิ่มอุปทานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ผู้ผลิตไข่ไก่รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เผยว่า ในปีไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 2 กันยายน 2566 ราคาเฉลี่ยของไข่ไก่ลดลง 48% จากปีที่แล้วเหลือ 1.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อโหล ทำให้ยอดขายสุทธิรวมของบริษัทลดลง 30% เป็น 459.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ผู้ผลิตได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โรคไข้หวัดนกยังคงมีอยู่ในประชากรนกป่า และขอบเขตของการระบาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นฤดูอพยพนั้นไม่สามารถคาดการณ์ได้
ข้อมูลของ USDA แสดงให้เห็นว่าก่อนหน้านี้ การติดเชื้อในสหรัฐฯ จํากัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ปีกที่มีชีวิตและสัตว์ปีกที่ไม่ใช่เพื่อการปศุสัตว์ และฟาร์มเชิงพาณิชย์แห่งสุดท้ายที่พบเชื้อไข้หวัดนกในเดือนเมษายนนั้นมีการเลี้ยงไก่งวงและตั้งอยู่ในเซาท์ดาโคตาและนอร์ทดาโคตา
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.