เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม 2566 ฝรั่งเศสเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดนกในเป็ด เพื่อยับยั้งและควบคุมไวรัสที่คร่าชีวิตสัตว์ปีกจำนวนหลายล้านตัวทั่วโลก ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ทำให้สหรัฐฯ ต้องจำกัดการนำเข้าสัตว์ปีกจากฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกมากที่สุด ทำให้อุปทานเนื้อสัตว์ปีกและไข่หยุดชะงัก และราคาพุ่งสูงขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก
การแพร่ระบาดที่เกิดกับฝูงสัตว์และความกังวลว่าไวรัสชนิดนี้อาจมีการกลายพันธุ์เป็นเชื้อที่สามารถแพร่สู่มนุษย์ได้ ทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสออกมาตรการบังคับและรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีนในสัตว์ปีก ถือเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปที่ทำเช่นนี้ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาวัคซีนชุดแรกได้ถูกฉีดให้เป็ดในฟาร์มแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมือง Landes ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรของฝรั่งเศสได้ระบุในแถลงการณ์ว่าจะต้องฉีดวัคซีนให้กับเป็ดทั้งหมดในฟาร์มที่มีจำนวนมากกว่า 250 ตัว และเลี้ยงเพื่อจำหน่ายเป็นเนื้อสัตว์หรือฟัวกราส์ หมายความว่าเป็ดจำนวน 64 ล้านตัวในฟาร์ม 2,700 แห่ง จะต้องได้รับวัคซีนภายใน 1 ปี มีค่าใช้จ่ายรวมเกือบ 100 ล้านยูโร โดยรัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่าย 85% ทำให้กลุ่มผู้เลี้ยงเป็ดและผู้ผลิตฟัวกราส์ยินดีกับการเคลื่อนไหวนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้เริ่มใช้มาตรการจำกัดการนำเข้าสัตว์ปีกจากฝรั่งเศส โดยอ้างว่าอาจมีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสเข้ามาในประเทศ เนื่องจากสัตว์ปีกที่ได้รับการฉีดวัคซีนอาจไม่แสดงอาการติดเชื้อ และไม่สามารถระบุได้ว่าไวรัสได้แพร่ระบาดอยู่ในฝูงสัตว์ปีกหรือไม่ ขณะที่ทางญี่ปุ่นก็ไม่ยอมรับการนำเข้าสัตว์ปีกของฝรั่งเศสหลังการฉีดวัคซีนเช่นกัน ทำให้ผู้ส่งออกสัตว์ปีกรายใหญ่ไม่เต็มใจที่จะฉีดวัคซีนให้กับสัตว์ปีกของตน
อนึ่ง การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกในฝรั่งเศสในระยะแรกจะจำกัดไว้เฉพาะเป็ด ซึ่งเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.