ชาวสวนของเวียดนามมั่นใจว่ายังคงสามารถส่งออกทุเรียนไปยังจีนได้
แม้จีนจะสามารถปลูกทุเรียนได้แล้ว แต่ก็ยังคงนำเข้าทุเรียนสดจากเวียดนามและประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่สามารถผลิตทุเรียนได้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ โดยในเดือนมีนาคม ปี 2566 จีนมีผลผลิตเพียง 2,450 เมตริกตัน โดยเป็นผลผลิตที่มาจากเกาะไหหลำประมาณ 50 เมตริกตัน หรือเพียง 0.005% ของปริมาณการบริโภคทุเรียนทั้งหมดในประเทศจีน ทั้งนี้เป็นผลจากการเผชิญกับสภาพความไม่สมบูรณ์ของดินตะกอนที่ส่งผลต่อคุณภาพผลผลิต และรสชาติ
ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 เวียดนามส่งออกทุเรียนไปยังจีนเป็นมูลค่าสูงถึง 503.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยที่เดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียวมีมูลค่าสูงถึง 332 ล้านเหรียญสหรัฐหรือเพิ่มขึ้น 18 เท่า จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และทุเรียนมีราคาสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 8.4 เหรียญสหรัฐ/กิโลกรัม (ประมาณ 293.83 บาท/กิโลกรัม)
ที่ผ่านมาราคาทุเรียนพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้เกษตรกรหันมาปลูกทุเรียนแทนการปลูกพืชชนิดเดิม ซึ่งกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนามได้เตือนว่า การเพิ่มพื้นที่การผลิตที่ไม่สามารถควบคุมได้อาจนำไปสู่ภาวะทุเรียนล้นตลาด โดยคาดการณ์ว่าปี 2566 ปริมาณผลผลิตทุเรียนจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านเมตริกตัน
ทั้งนี้ ผู้ส่งออกเวียดนามบางส่วนเริ่มแสวงหาตลาดส่งออกเพิ่มเติมเพื่อลดการพึ่งพาตลาดจีน เช่น ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นที่มีความเสถียรภาพทางด้านราคามากกว่า และสหราชอาณาจักรที่ผู้บริโภคให้ความสนใจและหันมาทดลองรับประทานทุเรียนมากขึ้น
ที่มา : VOA News สรุปโดย : มกอช.