องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กล่าวว่า ดัชนีราคาอาหารโลกในเดือนพฤษภาคม มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 124.3 จุด ซึ่งเป็นการลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ซึ่งต่ำกว่าจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 22% คาดว่าเกิดจากราคาของน้ำมันพืช ธัญพืช และผลิตภัณฑ์นมที่ลดลงมากกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำตาลและเนื้อสัตว์ รวมถึงการขยายข้อตกลงทะเลดํา (Black Sea Grain Initiative) ทำให้ดัชนีราคาธัญพืชของ FAO ในเดือนพฤษภาคมลดลงเกือบ 5%
FAO กล่าวว่า ดัชนีราคาน้ำมันพืชมีการลดลงเกือบ 9% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน เนื่องจากปริมาณของเมล็ดพืชน้ำมันมีจำนวนมากซึ่งสวนทางกับความต้องการที่ลดลง ในขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์นมทั่วโลกได้ลดลงมากกว่า 3%เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตนมตามฤดูกาลในประเทศแถบซีกโลกเหนือ ในทางตรงกันข้ามนั้น FAO ได้กล่าวว่า ราคาน้ำตาลมีการเพิ่มขึ้นถึง 5.5% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
ในรายงานอีกฉบับซึ่งเกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทานธัญพืช FAO ได้คาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตธัญพืชของโลกในปีนี้จะอยู่ที่ 2.813 พันล้านตัน เพิ่มขึ้น 1% จากปี 2565 โดยเฉพาะผลผลิตข้าวโพดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และยังได้คาดการณ์ว่าสต็อกธัญพืชทั่วโลกในในปี 2566/2567 จะเพิ่มขึ้นถึง 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 873 ล้านตัน
นอกจากนี้ FAO ยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเอลนีโญซึ่งเพิ่มความเสี่ยงกับอุปทานทั่วโลก รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาอาหารหลักอย่างข้าว
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.