หน่วยงานด้านอาหารของฟิลิปปินส์ (NFA) ได้เสนอให้นำเข้าข้าวจำนวน 330,000 ตัน เพื่อชดเชยการขาดแคลนปริมาณสำรองข้าวในประเทศ เนื่องจาก ฟิลิปปินส์ต้องการควบคุมต้นทุนราคาของธัญพืชหลักและจำกัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ขอให้ NFA เสริมกำลังสินค้าคงคลังในคลังสำรองของประเทศสำหรับการช่วยเหลือฉุกเฉิน แต่การเพิ่มการซื้อจากเกษตรกรในท้องถิ่นอาจผลักดันราคาในประเทศให้สูงขึ้นอีก
ปัจจุบัน ราคาข้าวในฟิลิปปินส์มีการปรับตัวที่สูงขึ้นโดยข้าวพันธุ์ที่ถูกที่สุดขายอยู่ที่ 36 - 44 เปโซต่อกิโลกรัม (ประมาณ 22 - 27 บาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 35 - 38 เปโซ (ประมาณ 21 - 23 บาท) ในช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา สวนทางกับอัตราเงินเฟ้อของประเทศที่ลดลงเหลือ 7.6% ในเดือนมีนาคม ซึ่งยังคงสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2 – 4% โดยรัฐบาลกำลังพิจารณาใช้มาตรการที่ไม่ใช่มาตรการทางการเงินเพื่อจัดการกับแรงกดดันด้านราคา ขณะที่ธนาคารกลางก็ได้ส่งสัญญาณหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว
ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่วนใหญ่นำเข้าจากเวียดนาม ไทย อินเดีย และผู้ผลิตอื่นๆ ในเอเชีย ฟิลิปปินส์มีสต็อกข้าวสำรองอยู่ที่ประมาณ 1.69 ล้านตัน หรือเทียบเท่ากับ 45 วัน ซึ่งเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของเป้าหมายปริมาณสต็อกข้าวสำรอง 90 วัน ที่จำเป็นต่อการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว
ที่มา : Vietnamplus สรุปโดย : มกอช.
