เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน 2566 รายงานฉบับใหม่ที่เผยแพร่โดย Rabobank เผยว่า ราคาไข่ทั่วโลกคาดว่าจะมีราคาสูงตลอดปี 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคไข้หวัดนก โดยในไตรมาสแรกของปี 2566 ราคาไข่ไก่ในท้องตลาดหลายประเทศได้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นถึง 100% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565
Eggflation หรืออัตราเงินเฟ้อของไข่ไก่นั้นเกิดได้จากปัจจัยทั้งฝั่งอุปสงค์และอุปทานรวมกัน เช่น ต้นทุนอาหารสัตว์ที่คิดเป็น 60-70% ของต้นทุนในการเลี้ยงไก่ไข่ หากราคาอาหารสัตว์เพิ่มสูงขึ้นก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ไข่ไก่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก นอกจากนี้ยังมีการระบาดของไข้หวัดนก การหยุดชะงักเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเนื่องจากแรงกดดันด้านค่าครองชีพ และกฎระเบียบใหม่ในบางประเทศก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาของไข่ไก่สูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ประเทศนิวซีแลนด์ได้สั่งห้ามเลี้ยงไก่ไข่แบบขังกรง ซึ่งทำให้คาดการณ์ปริมาณการผลิตในประเทศลดลงระหว่าง 5%-21%
ก่อนหน้านี้ราคาของไข่ไก่เป็นไปตามดัชนีอาหารขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ แต่ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ราคาของไข่ไก่ก็ได้เพิ่มขึ้นในขณะที่ราคาอาหารเริ่มลดลง จึงมีการคาดการณ์ว่าราคาไข่อาจสูงตลอดปี 2566 แต่ก็จะมีราคาที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ และในส่วนของการรักษาเสถียรภาพของตลาดไข่ไก่รายงานระบุว่าหนึ่งในเครื่องมือหลักในการรักษาเสถียรภาพของตลาดคือความร่วมมือในการสร้างห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ที่ดีขึ้น และการให้ความเชื่อมั่นจากกลุ่มผู้ซื้อเพื่อชดเชยความเสี่ยงด้านการผลิตที่สูงของเกษตรกรก็จะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาไข่ไก่ทั่วโลก
ที่มา : Agriland/Rabobank สรุปโดย : มกอช.
