TH EN
A A A

ผลสำรวจพบชาวเกาหลีบริโภคเนื้อเพิ่ม-ผักโตตาม-ลดข้าว

14 กุมภาพันธ์ 2566   

                 ความนิยมของการบริโภคข้าวในเกาหลีใต้กำลังลดลง หลังชาวเกาหลีใต้จำนวนมากลดการบริโภคธัญพืชและเพิ่มสัดส่วนการบริโภคเนื้อสัตว์ โดยผลการสำรวจและสัมภาษณ์โดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชนบทของเกาหลีใต้ (KREI) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 พบว่าการบริโภคข้าวต่อคนลดลงร้อยละ 0.4 จากปริมาณ 56.9 กิโลกรัมในปี 2564 และเหลือปริมาณ 56.7 กิโลกรัมในปี 2565
                 แม้การลดลงนี้อาจดูไม่มีนัยสำคัญ แต่หากพิจารณาเป็นการบริโภคข้าวต่อวันซึ่งเท่ากับ 155.5 กรัม จะพบว่ามีการบริโภคข้าวเพียง 1.5 ชามต่อวัน เมื่อพิจารณาจากค่าเฉลี่ยของข้าว 1 ชาม ที่มีปริมาณ 100 กรัม ซึ่งเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2506 ในขณะเดียวกันปริมาณบริโภคเนื้อสัตว์ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 อยู่ที่ 58.4 กิโลกรัมต่อคนต่อปี และหากแนวโน้มนี้ยังคงเป็นไปในทิศทางเดิม ใน 10 ปี ข้างหน้า (2575) ชาวเกาหลีใต้อาจบริโภคเนื้อสัตว์ถึงปีละ 63.1 กิโลกรัมต่อคน
                 เมื่อพิจารณารายการเนื้อสัตว์ที่ได้รับความนิยมบริโภค พบว่าเนื้อหมูถูกบริโภคมากที่สุด เป็นจำนวน 28.5 กิโลกรัม หรือมีสัดส่วนถึงร้อยละ 50 รองลงมาคือเนื้อไก่จำนวน 15.1 กิโลกรัม และเนื้อวัวจำนวน 14.8 กิโลกรัม โดยพบว่าผู้ใหญ่ร้อยละ 78 บริโภคเนื้อหมูมากกว่าสัปดาห์ละครั้ง
                 ผู้บริโภครายหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบริโภคของตน ว่าได้เปลี่ยนจากการบริโภคข้าวเป็นหลักมาเป็นการบริโภคเนื้อสัตว์เป็นหลัก โดยไม่รับประทานอาหารเช้า แต่หันมารับประทานอาหารมื้อใหญ่ขึ้นในเวลากลางวัน เน้นการรับประทานเนื้อสัตว์และลดการบริโภคข้าวลง ในขณะที่มื้อเย็นก็บริโภคสลัดหรืออาหารที่ทานง่าย ๆ และโดยเฉลี่ยบริโภคข้าวเพียงมื้อละ 1 ชาม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมดังกล่าวเป็นผลมาจากการได้รับวินิจฉัยว่าน้ำหนักเกิน
                 KREI เผยว่าในปี 2561-2564 อุปทานข้าวได้กลับมาเป็นอาหารที่ประชากรเกาหลีใต้บริโภคสูงสุด แต่ในปี 2565 ที่ผ่านมา ความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ได้เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง และคาดการณ์ว่าความต้องการผัก เช่น กะหล่ำปลี หัวไชเท้า กระเทียม พริก และหัวหอม ที่ประชาชนนิยมบริโภคพร้อมข้าวก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ที่มา : Korea Joongang Daily   สรุปโดย : มกอช.

บทความนี้มีประโยน์หรือไม่?