โดยมีอัตราร้อยละ 23.5 สำหรับปุ๋ยเคมีทุกชนิด (ไนโตรเจน ฟอสเฟต และโปแทสเซียม) ที่ส่งออกจากภูมิภาค EAEU และมีมูลค่าสูงกว่า $450 ต่อตัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
ข้อมูลจากหน่วยงาน National Rating Agency (NRA) ของรัสเซีย พบว่าราคาปุ๋ยในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น 30% เนื่องจากข้อจำกัดในการส่งออกของรัสเซียและเบลารุส ทั้งนี้ Leonid Khazanov ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมและ พลังงาน กล่าวว่าอัตราภาษีส่งออกที่จะนำมาใช้ในปี 2566 นี้ จะไม่ส่งผลกระทบทำให้ราคาปุ๋ยภายในประเทศพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตามที่หลายคนกังวล โดย Khazanov ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แม้ว่าในปัจจุบันราคาปุ๋ยเคมีจะยังคงอยู่ในระดับสูงแต่ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่าราคาปุ๋ยได้ขยับลดลง เฉลี่ย 60-80 ดอลลาร์จากราคาที่เคยสูงสุดในช่วงฤดูร้อน ทั้งนี้ Khazanov เชื่อว่าอัตราเก็บภาษีส่งออกปุ๋ยใหม่ที่กำหนดจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อราคาปุ๋ยในตลาดภายในประเทศของรัสเซีย และราคาปุ๋ยในตลาดโลก
Khazanov ยังได้กล่าวถึงแนวโน้มฉากทัศน์อุตสาหกรรมเคมีของรัสเซียในปีหน้า โดยฉากทัศน์แรกที่เป็นไปได้ คือ ราคาปุ๋ยในตลาดโลกจะลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงระดับที่ผู้ประกอบการบริษัทเคมีภัณฑ์ของรัสเซียทำกำไรจากส่งออกปุ๋ยสู่ตลาดโลกน้อยลง และจะลดปริมาณการส่งออก ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มสูงขึ้นของราคาปุ๋ยในตลาดโลก และผู้ประกอบการก็จะเริ่มกลับไปเพิ่มปริมาณการส่งออกไปยังตางประเทศอีกครั้งเพื่อทำกำไร และฉากทัศน์ที่สองที่เป็นไปได้ คือราคาปุ๋ยในตลาดโลกจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นก่อนสิ้นปี 2565 (สังเกตได้จากราคาคาร์บาไมด์-แอมโมเนียที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้) จะทำให้ผู้ผลิตในประเทศจะยังคงปริมาณการส่งออกปุ๋ยสู่ตลาดโลกไว้เท่าเดิม”
นอกจากนี้ VLADIMIR CHERNOV นักวิเคราะห์ของ FREEDOM FINANCE GLOBAL ได้ให้ข้อมูลสถานการณ์ราคาปุ๋ย ไตรมาสที่สามของปี 2565 ว่าต้นทุนเฉลี่ยของ
• ยูเรีย (urea) คือ 538 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งมากกว่าราคาปีที่แล้ว 21.72%
• แอมโมฟอส (ammophos) มีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 777 ดอลลาร์ (11.8%)
• ฟอสเฟต (phosphate) เพิ่มขึ้นเป็น 320 ดอลลาร์ (114.77%)
• โปแทสเซียม (potash) เพิ่มขึ้นเป็น 694 ดอลลาร์ต่อตัน (150.54%)
ที่มา : https://www.opsmoac.go.th/moscow-news-files-451891791018?mibextid=ncKXMA สรุปโดย : มกอช.