FDA ได้ออกประกาศร่างเกณฑ์คำแนะนำปริมาณที่พบได้สูงสุดของตะกั่วในน้ำแอปเปิ้ล 100% พร้อมดื่ม รวมทั้งน้ำผลไม้ชนิดอื่น และน้ำผลไม้ผสม ซึ่งข้อกำหนดนี้เป็นไปตาม Closer to Zero Action Plan ซึ่งเป็นแผนปฏิบัติในการลดระดับการสัมผัสกับโลหะหนักในอาหาร
ในเอกสารคำแนะนำฉบับร่างสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร FDA ได้ให้ความสำคัญกับตะกั่วในน้ำแอปเปิ้ลซึ่งเป็นโลหะหนักที่ส่งผลเสียต่อพัฒนาการสมองในเด็ก เนื่องจากน้ำแอปเปิ้ลเป็นที่นิยมบริโภคในเด็กเล็ก และอาจส่งผลให้เด็กเล็กได้รับปริมาณตะกั่วจากการบริโภคน้ำแอปเปิ้ลมากกว่าน้ำผลไม้ชนิดอื่น จึงกำหนดให้มีปริมาณตะกั่วในน้ำแอปเปิ้ลได้ไม่เกิน 10 ppb ซึ่งต่ำกว่าปริมาณตะกั่วในน้ำผลไม้ชนิดอื่นที่สามารถมีตะกั่วได้ไม่เกิน 20 ppb โดย FDA ประเมินว่าจะช่วยลดการรับสัมผัสตะกั่วในเด็กเล็กจากน้ำแอปเปิ้ลได้ถึงร้อยละ 46 และคาดว่า ปริมาณตะกั่วในน้ำผลไม้ชนิดอื่นซึ่งถูกกำหนดไว้ที่ 20 ppb จะสามารถลดการรับสัมผัสตะกั่วในเด็กเล็กจากน้ำผลไม้ได้ถึงร้อยละ19เเละคาดว่าFDAจะสามารถเผยแพร่เอกสารคำแนะนำฉบับร่างเกี่ยวกับปริมาณตะกั่วในอาหารทารกและอาหารเด็กเล็กภายในปี 2565
ปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีการกำหนดค่าแนะนำหรือปริมาณตกค้างสูงสุดของโลหะหนักปนเปื้อนในอาหารตามกฎหมายบังคับไว้จำนวนหนึ่ง เช่น ปริมาณการตกค้างโลหะหนักในน้ำดื่ม และยังไม่ได้ครอบคลุมทุกชนิดโลหะหนักสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม FDA ได้มีแผนงานวิจัยรองรับที่เป็นประโยชน์ต่อการประเมินความเสี่ยงและการวิเคราะห์เพื่อกำหนดเกณฑ์ความปลอดภัยของโลหะหนักให้สอดคล้องต่อพฤติกรรมการบริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของการกำหนดร่างฯ ปริมาณตะกั่วในครั้งนี้ ได้ เปิดรับความคิดเห็นเกี่ยวกับเอกสารฉบับร่างทาง www.regulations.gov ตามเลขที่อ้างอิงเอกสาร Docket No. FDA-2019-D-5609 จนถึงวันที่ 28 มิถุนายน 2565
ที่มา : Food Safety Magazine สรุปโดย : มกอช.