การนำเข้าปลาทูน่าของประเทศเยอรมนีในปี 2563 นับได้ว่าสูงที่สุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากความต้องการบริโภคปลาทูน่าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก โดยเฉพาะทูน่ากระป๋อง สาเหตุหลักมาจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ทำให้ครอบครัวเยอรมันนิยมกักตุนทูน่ากระป๋อง ซึ่งเป็นเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีและเก็บไว้ได้นาน โดยสถานการณ์การนำเข้าผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าของเยอรมนีในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 มีการนำเข้าทูน่ากระป๋องเพิ่มขึ้น 48% ปลาทูน่าสด ปลาทูน่าแช่เย็นและแช่แข็งเพิ่มขึ้น 19% ส่งผลให้ปริมาณการนำเข้าทั้งหมดสูงถึง 58,000 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562
ด้วยเหตุข้างต้นจึงเป็นโอกาสที่การส่งออกปลาทูน่าของปาปัวนิวกินีและเวียดนามได้มีโอกาสฟื้นตัวในตลาดเยอรมัน หลังจากที่การส่งออกลดลงในปี 2562 โดยทูน่าแปรรูปของปาปัวนิวกินีประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดเยอรมันในปี 2563 นี้ เติบโตขึ้นถึง 84% ในขณะที่ทูน่าแปรรูปของเวียดนามมีอัตราเติบโตอยู่ที่ราว 12% แต่ผู้ส่งออกของเวียดนามยังคงเสนอราคาที่ได้เปรียบในการแข่งขันกว่าผู้ส่งออกรายอื่น แม้ว่าการส่งออกของเวียดนามจะได้รับผลกระทบจากอัตราภาษีที่ไม่เอื้ออำนวยและการที่เวียดนามได้ใบเหลืองจาก EU ดังนั้นส่วนแบ่งการตลาดของเวียดนามในเยอรมนียังคงไม่ดีนัก นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีฟิลิปปินส์ที่เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นสำคัญในการแข่งขัน โดยมีการส่งปลาทูน่าไปยังเยอรมนีถึง 24% ของปริมาณการส่งออกปลาทูน่าทั้งหมด เนื่องจากข้อได้เปรียบในเรื่องภาษีศุลกากรจากการได้สิทธิ์ GSP
ที่มา : http://seafood.vasep.com.vn/seafood/51_15755/germany-increased-imports-of-canned-tuna.htm สรุปโดย : มกอช.