จากรายงานข่าว https://warning.acfs.go.th/th/early-warning/view/?page=7199 ที่คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอร่างกฎระเบียบที่จะถอดไทเทเนียมไดออกไซด์ (E171) ออกจากรายการวัตถุปรุงแต่งอาหารที่ได้รับอนุญาตนั้น ในการประชุมรัฐสภายุโรปครั้งล่าสุดได้มีมติคงสารดังกล่าวให้ใช้ในอาหารได้ต่อไป แต่มีแนวทางว่าควรลดการใช้สารนี้ในอาหารลงครึ่งหนึ่ง เพราะผลิตภัณฑ์อาหารที่มักผสมสารนี้นั้นเป็นที่นิยมในเด็ก ซึ่งอาจได้รับผลกระทบได้มากกว่าผู้ใหญ่ ทั้งนี้มีรายงานการก่อมะเร็งของไทเทเนียมไดออกไซด์ใน https://www.nature.com/articles/srep40373?ct=t(Krebs_durch_Zahpasta_an_Customers1_30_2017)&mc_cid=72093538cf&mc_eid=b8c9d5be24#citeas
อีกญัตติหนึ่งที่เกี่ยวกับข้อกำหนดกฎระเบียบอาหารในการประชุมครั้งนี้คือการกำหนดลดปริมาณสารอะคริลาไมด์สูงสุดที่พบได้ในอาหารกลุ่มขนมปังกรอบจาก 350 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม เป็น 150 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม และผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารแปรรูปสำหรับทารกและเด็กเล็กที่ทำจากธัญพืชเป็น 40 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม โดยอะคริลาไมด์เป็นสารที่เกิดขึ้นเองในกระบวนการแปรรูปอาหารด้วยความร้อน และมีข้อมูลระบุว่าเป็นสารก่อมะเร็งด้วยเช่นกัน ทั้งนี้สามารถลดปริมาณการเกิดอะคริลาไมด์ในอาหารได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น Kerry Solution เป็นต้น
ที่มา : https://www.foodnavigator.com สรุปโดย : มกอช.