เชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella spp.) เป็นแบคทีเรียก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร มนุษย์อาจรับเข้าสู่ร่างกายผ่านการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องร่วง อาเจียน และมีไข้ ซึ่งอาการอาจหนักมากจนทำให้ผู้ป่วยบางรายเสียชีวิตได้ จึงเป็นเชื้อโรคสำคัญที่ต้องระวังเพื่อความปลอดภัยในอาหาร
รายงานล่าสุดจากฮ่องกงพบว่า เหตุการณ์ผู้ป่วยอาหารเป็นพิษเมื่อไม่นานมานี้เกิดจากการบริโภคแซนด์วิชที่ผลิตโดยผู้ผลิตที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยสามารถตรวจพบเชื้อซาลโมเนลลาในอุจจาระของผู้ป่วย และในตัวอย่างแซนด์วิชที่เก็บได้จากร้านค้าที่ผู้ป่วยระบุ ในกรณีดังกล่าวพบผู้ป่วยทั้งสิ้น 229 ราย และ 45 รายต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยพบการกระจายตัวหลายกลุ่มและปรากฏขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน หน่วยงานที่รับผิดชอบระบุว่าการเก็บรักษาอาหารสำเร็จรูปไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลานานคือปัจจัยที่เอื้อให้เชื้อโรคสามารถเจริญเติบโตและสร้างสารพิษได้มากขึ้น ผู้เกี่ยวข้องจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานที่ทิ้งไว้เป็นเวลานานหลายชั่วโมง ทั้งนี้ได้มีการตักเตือนและอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการให้ดูแลสุขอนามัยอาหารให้ดีขึ้น และหยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนแล้ว โดยตามกฎหมายของฮ่องกง ผู้ประกอบการโรงงานอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 ดอลลาร์ฮ่องกง และจำคุกไม่เกินหกเดือน
ปัจจุบันกฎหมายควบคุมการประกอบกิจการอาหารของไทยถือว่าไม่เข้มงวดนักเมื่อเทียบกับหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งเอื้อให้ชาวไทยสามารถเริ่มธุรกิจอาหารได้ง่าย แต่ก็นับเป็นความเสี่ยงต่อความปลอดภัย ดังกรณีปรากฏเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่เกิดการป่วยจากการบริโภคขนมจีบ จนมีผู้เสียชีวิต และตรวจพบว่ามีการปนเปื้อนเชื้อซาลโมเนลลาเช่นกัน กรณีเหล่านี้จึงเป็นสิ่งเตือนให้ผู้ประกอบการผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปตระหนักถึงความสำคัญของสุขาภิบาลอาหาร จะต้องเรียนรู้และยึดถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความปลอดภัยในอาหารของผู้บริโภค
ที่มา : https://www.foodsafetynews.com/ สรุปโดย : มกอช.