สมาคมมะม่วงหิมพานต์เวียดนามออกมาย้ำเตือนคำแนะนำให้ผู้ประกอบการแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์ของเวียดนามว่า แม้ช่วงเวลานี้กำลังมีความต้องการผลิตภัณฑ์เม็ดมะม่วงหิมพานต์จากเวียดนามมาก แต่ผู้ประกอบการควรขายสินค้าด้วยความระมัดระวัง อย่าเร่งขายสินค้าจนหมด และ ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรเร่งทำสัญญาซื้อวัตถุดิบล่วงหน้าก่อนได้ราคาที่เหมาะสมและหาตลาดได้อย่างแน่ชัด
สถานการณ์โควิด-19 กำลังคลี่คลายในจีน อาจทำให้กำลังซื้อจากจีนสูงขึ้น ในขณะที่ทางยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่เป็นตลาดดั้งเดิมของเม็ดมะม่วงหิมพานต์เวียดนามเองยังอยู่บนความไม่แน่นอนของการขนส่ง และความกังวลถึงสถานการณ์ที่กำลังเลวร้ายลงในแอฟริกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบมะม่วงหิมพานต์ดิบ จึงอาจทำให้ผู้นำเข้าจากยุโรปเร่งการซื้อและให้จัดส่งผลิตภัณฑ์จากเวียดนามและอินเดีย แต่ทางด้านอินเดียเองก็ยังอยู่ในช่วงล็อคดาวน์ ทำให้เม็ดมะม่วงหิมพานต์ดิบราว 15,000 ตันยังเก็บอยู่ในโรงงานแปรรูป คำสั่งซื้อและให้เร่งจัดส่งจึงหันมาสู่ผู้ผลิตในเวียดนาม ซึ่งอาจกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเร่งจำหน่ายสินค้าและทำสัญญาซื้อวัตถุดิบล่วงหน้าจากแอฟริกามากขึ้น
ทางสมาคมแนะนำว่าผู้ประกอบการไม่ควรรีบทำสัญญาหากยังไม่ได้ราคาที่เหมาะสม เพราะอนาคตราคาจะเปลี่ยนไปอีกหากสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย และไม่ควรเร่งซื้อวัตถุดิบหากยังไม่มีแผนแปรรูปหรือขายวัตถุดิบต่อ แต่ควรซื้อจากเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงหิมพานต์ในประเทศเพื่อเป็นการส่งเสริมและสร้างเสถียรภาพภายในมากกว่า ทั้งนี้สถานการณ์โควิด-19 ทำให้คาดการณ์ผลประกอบการของอุตสาหกรรมมะม่วงหิมพานต์เวียดนามลดลงจาก 4,000 เป็น 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
ที่มา : https://vietnamnews.vn/ สรุปโดย : มกอช.