กระทรวงการคลังยูกันดาเปิดเผยข้อมูลสถิติการค้าระหว่างประเทศในรอบปี 2019 พบว่ายูกันดามีการนำเข้าสินค้ากลุ่มผัก เป็นมูลค่าถึง 49,000 ล้านชิลลิงยูกันดา หรือคิดเป็นประมาณ 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสัดส่วนการนำเข้าผักแช่แข็งสูงสุดที่ 4.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการนำเข้าหัวหอมใหญ่ หัวกระเทียม หัวหอมแดง และต้นกระเทียม รวมเป็นมูลค่าถึง 4.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้นเป็นกลุ่มแครอท บีตรูตสำหรับบริโภคสด และเทอร์นิพ รวมมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีการนำเข้ามันฝรั่ง มะเขือเทศ และกะหล่ำปลี ที่สามารถผลิตเองในประเทศได้ด้วย ส่วนผักอื่น ๆ ที่มีการนำเข้าได้แก่กลุ่มถั่วและดอกกะหล่ำ ประเทศผู้ส่งออกสำคัญได้แก่จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเวียดนาม
ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในยูกันดาเองแสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมการนำเข้าดังกล่าว และมีความพยายามส่งเสริมการผลิตในประเทศทดแทนการนำเข้า ตลอดจนการผลิตเพื่อการส่งออกในระยะต่อไป ผ่านการพัฒนาห่วงโซ่การผลิตด้วย โดยมีรายงานว่ายูกันดามีการผลิตและบริโภคหัวหอมใหญ่ปริมาณมาก ดังปรากฏข้อมูลว่ามีพื้นที่ปลูก 86,500 เฮกตาร์ ได้ผลผลิตปีละ 344,000 ตัน ทำให้ยูกันดาเองก็เป็นผู้ส่งออกหัวหอมใหญ่ของภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีมะเขือเทศเป็นพืชผักที่ผลิตมากอีกชนิดหนึ่งและยังปรากฏข้อมูลอีกว่ายูกันดามีการนำเข้าต้นไม้มีชีวิต ส่วนอื่น ๆ ของพืช หัว ราก ไม้ตัดดอกและไม้ประดับ เป็นมูลค่า 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเชื้อพันธุ์พืชและเห็ดอีก 1.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่วนใหญ่เป็นส่วนขยายพันธุ์ไม้ตัดดอกเพื่อตกแต่งประดับ
ที่มา : https://www.monitor.co.ug/ สรุปโดย : มกอช.
