รายงานศึกษาของสมาคมอุตสาหกรรมอาหารแห่งเอเชีย (Food Industry Asia: FIA) โดยบริษัท PwC ชี้ว่าปัญหาที่เกิดจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 อาจสร้างปัญหาที่ท้าทายความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาค และความร่วมมือกันระหว่างภาคอุตสาหกรรมกับภาครัฐมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการผลิตและกระจายสินค้าอาหาร
สมาคมอุตสาหกรรมอาหารแห่งเอเซีย (Food Industry Asia: FIA) ได้ว่าจ้างให้บริษัท PwC ศึกษาและรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ในชื่อ “Maintaining food resilience in a time of uncertainty” เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ว่า การจัดหาอาหารและบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานของอาหารมีความสำคัญ และรัฐบาลต่าง ๆ ในภูมิภาคควรให้ความมั่นใจกับแรงงานในภาคการผลิตว่าพวกเขาจะได้รับการปกป้อง ในขณะที่ความช่วยเหลือทางการเงินจะไปถึงประชากรและธุรกิจกลุ่มที่เปราะบางที่สุด เพื่อรักษาแรงงานและห่วงโซ่อุปทานอาหารในภูมิภาคเอาไว้ อันจะส่งผลให้ผู้คนมั่นใจได้ว่าจะเข้าถึงอาหารได้เมื่อจำเป็น และไม่เกิดการกักตุนสินค้าอย่างตื่นตระหนกเกินพอดี ซึ่งจะยิ่งทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก ทั้งนี้ได้ระบุไว้ว่ามาตรการป้องกันการระบาดของรัฐบาลในประชาคมอาเซียนนั้นมีความครอบคลุมเพียงพอแล้ว
อุตสาหรกรรมอาหารไม่เพียงแต่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนให้ได้รับโภชนาการเพียงพอเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ด้วยมูลค่าถึงราวห้าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16 ล้านล้านบาท) คิดเป็นประมาณ 17% ของ GDP รวมของภูมิภาค และสร้างตำแหน่งงานมากถึง 113 ล้านคน
ที่มา : https://www.newfoodmagazine.com/ สรุปโดย : มกอช.