TH EN
A A A

ประเทศ EU พร้อมใจสนับสนุนการจำกัดการใช้ไขมันทรานส์

7 พฤษภาคม 2562   
                เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 คณะกรรมาธิการยุโรปลงมติให้ใช้กฎระเบียบจำกัดปริมาณการใช้ไขมันทรานส์ในอาหาร แปรรูป และหากมีการใช้ไขมันทรานส์มากกว่า 2 กรัมต่ออาหาร 100 กรัม ผู้ขายส่งต้องแจ้งให้ผู้ค้าปลีกทราบ โดยต้องดำเนินการภายในวันที่ 1 เมษายน 2564
                กรดไขมันทรานส์ (Trans fatty acids: TFAs) ปริมาณเล็กน้อยสามารถเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติในอาหารทั่วไป เช่น เนื้อสัตว์ และชีส อย่างไรก็ตาม ไขมันในกระบวนการผลิตอุตสาหกรรมหรือไขมันทรานส์สังเคราะห์เป็นไขมันมันที่ผลิตโดยใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน ซึ่งพบได้ในมาการีนและน้ำมันพืชบางชนิดมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยผู้ผลิตอาหารมักจะใช้น้ำมันพืชที่ผ่านการเติมไฮโดรเจนในการผลิต เพื่อจะได้ผลิตภัณฑ์ต้นทุนต่ำและเก็บไว้ได้นาน ซึ่งหากบริโภคในปริมาณที่สูงมากอาจทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non–communicable disease: NCDs) อาทิ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และมีความเสี่ยงสูงในการพัฒนาโรคเบาหวานประเภท 2 ในการนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนยุโรป ซึ่งในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เกิดจากการรับประทานไขมันทรานส์มากกว่า 500,000 คน โดยอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงอาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจถึง 21% และอัตราการตาย 28%
                กฎระเบียบจำกัดปริมาณการใช้ไขมันทรานส์ถูกนำมาใช้หลังจากสมาชิกสภายุโรปลงคะแนนเสียงสนับสนุนการบังคับใช้อย่างท่วมท้นในปี 2559 โดยถึงปัจจุบันรัฐสมาชิกหลายประเทศได้บังคับใช้กฎระเบียบเรียบร้อยแล้ว ตัวอย่างเช่น เดนมาร์ก มีการจำกัดปริมาณการผลิตไขมันทรานส์ในอุตสาหกรรมในปี 2546 ส่งผลให้อัตราการเกิดโรคหัวใจลดลง นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่นที่ใช้กฎระเบียบในทิศทางเดียวกัน ได้แก่ ออสเตรีย ลัตเวีย และสวิตเซอร์แลนด์
                ในส่วนขององค์กร เช่น FoodDrinkEurope (FDE) และสมาพันธ์ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมน้ำมันพืชและโปรตีนป่นจากพืชของสหภาพยุโรป (FEDIOL) ได้สนับสนุนกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรป (EU) ฉบับนี้เช่นกัน โดยกล่าวว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มส่วนใหญ่ของ EU ได้ยกเลิกการใช้ไขมันทรานส์ในการผลิตอาหารแปรรูปแล้ว นอกจากนี้ ยังได้ผลักดันเรื่องการติดฉลากผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการเติมไฮโดรเจนต่อ EU เพื่อให้ปรับข้อกำหนดข้อมูลอาหารแก่ผู้บริโภค Regulation (EU) 1169/2011
                ทั้งนี้ องค์กรผู้บริโภคสหภาพยุโรป (BEUC) เห็นด้วยกับกฎระเบียบจำกัดการใช้ไขมันทรานส์ในอาหารแปรรูป แต่คิดว่าปี 2564 อาจล่าช้าเกินไป
 
 
ที่มา :
www.foodnavigator.com
สรุปโดย : มกอช.

บทความนี้มีประโยน์หรือไม่?