คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศระเบียบ Commission Implementing Regulation (EU) 2019/398 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2562 ปรับตารางภาคผนวกของระเบียบ Regulation (EC) No. 616/2007 ว่าด้วยการกำหนดปริมาณโควตาสินค้าเนื้อไก่และสัตว์ปีกให้กับประเทศที่สาม โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562
จากการจัดสรรโควตารวมเพิ่มเติมดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการของไทยสามารถใช้สิทธิ์ในการส่งออกสินค้าเนื้อไก่และสัตว์ปีกไปยังสหภาพยุโรปจำนวน 4 รายการ ได้แก่
1. สินค้าเนื้อไก่ปรุงแต่ง หรือทำไว้ไม่ให้เสีย และไม่ปรุงสุก (พิกัดฯ 1602.32.11) ปริมาณโควตาที่ได้รับจัดสรร 340 ตัน/ปี ภาษีในโควตา 630 ยูโร/ตัน
2. สินค้าสัตว์ปีกปรุงแต่ง หรือทำไว้ไม่ให้เสีย ซึ่งมีสัดส่วนเนื้อหรือเครื่องในตั้งแต่ 57% ของน้ำหนักขึ้นไปและปรุงสุก (พิกัดฯ 1602.39.29) ปริมาณโควตาที่ได้รับจัดสรร 60 ตัน/ปี ภาษีในโควตา 10.9%
3. สินค้าสัตว์ปีกปรุงแต่ง หรือทำไว้ไม่ให้เสีย ซึ่งมีสัดส่วนเนื้อหรือเครื่องในตั้งแต่ 25% จนถึงต่ำกว่า 57% ของน้ำหนัก (พิกัดฯ 1602.39.85) ปริมาณโควตาที่ได้รับจัดสรร 60 ตัน/ปี ภาษีในโควตา 10.9%
4. สินค้าเนื้อไก่ปรุงแต่ง หรือทำไว้ไม่ให้เสีย และปรุงสุก (พิกัดฯ 1602.32.19) ปริมาณโควตาที่ได้รับจัดสรร 5,000 ตัน/ปี ภาษีในโควตา 8%
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์จะรับภาษีในโควตาสินค้า 4 รายการข้างต้น ไม่จำเป็นต้องแนบหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าสำหรับการนำเข้าสหภาพยุโรป
การปรับเพิ่มปริมาณโควตาของสหภาพยุโรปครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญของไทยในการส่งออกสินค้าไปสหภาพยุโรปมากขึ้น และคาดว่าไทยอาจจะได้ส่วนแบ่งจากการนำเข้าสินค้าเนื้อปรุงแต่ง (พิกัดฯ 1602.32.11) ที่สหภาพยุโรปเพิ่มโควตาให้เป็นครั้งแรก เป็นอันดับต้นๆ ด้วย อนึ่ง จากสถิติของปี 2561 รายงานว่าสหภาพยุโรปนำเข้าสินค้าเนื้อไก่ปรุงแต่ง (พิกัดฯ 1602.32.19) จากไทยเป็นอันดับหนึ่ง มูลค่า 25,040 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของการนำเข้าทั่วโลก การนำเข้าสัตว์ปีกปรุงแต่ง (พิกัดฯ 1602.39.29) จากไทยเป็นอันดับสอง มูลค่า 1,038 ล้านบาท คิดเป็น 41% ของการนำเข้าจากทั่วโลก และการนำเข้าสินค้าสัตว์ปีกปรุงแต่ง (พิกัดฯ 1602.39.85) จากไทยเป็นอันดับที่สอง มูลค่า 14 ล้านบาท คิดเป็น 30%
ที่มา : กรมการค้าต่างประเทศ สรุปโดย : มกอช.