ประเทศจีนได้กำหนดยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหารและผลผลิตทางการเกษตรเพื่อฟื้นฟูชนบท ปี 2516 – 2565 โดยการสร้างเขตพื้นที่ 2 เขต เพื่อทำการเกษตรถาวรระยะยาวเพาะปลูกข้าวและธัญพืชที่กำหนดรวม 440.83 ล้านไร่ และสร้างหลักประกันคุ้มครองการผลิตสินค้าเกษตร
พื้นที่ทำการเกษตรถาวรแบ่งออกเป็นเขตเพาะปลูกข้าวและธัญพืช ได้แก่ ข้าว ข้าวสาลี และข้าวโพด มีขนาด 375 ล้านไร่ อีกพื้นที่เป็นเขตคุ้มครองการผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ถั่วเหลือง ฝ้าย เมล็ดเรพซีด อ้อย และยางพารา มีขนาด 99.17 ล้านไร่ โดยการกำหนดพื้นที่พิจารณาจากรายงานสภาพพื้นที่ และเลือกพื้นที่ต่อเนื่องกันเพื่อการพัฒนาเป็นแปลงใหญ่ ซึ่งหากเป็นที่ราบต้องมีขนาดไม่น้อยกว่า 208.33 ไร่ และหากเป็นพื้นที่บริเวณภูเขาต้องมีขนาดไม่น้อยกว่า 20.83 ไร่ ในการนี้ รัฐบาลระดับมณฑลจะเป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลและส่งให้กับกระทรวงเกษตรและกิจการชนบทคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติเพื่อดำเนินการสร้างฐานข้อมูลและรายงานผลแก่คณะรัฐมนตรี
ทางรัฐบาลจะส่งเสริมพื้นที่ทั้งสองเขตให้เป็นพื้นที่ทำการเกษตรแบบมาตรฐานสูง ซึ่งจะใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ในการพัฒนาพื้นที่ โดยรัฐบาลกลางและท้องถิ่นมีนโยบายให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเข้าร่วม และจะส่งเสริม สนับสนุน และให้หลักประกันในการพัฒนาพื้นที่ทำเกษตร ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้วางเป้าหมายว่าภายในปี 2563 ต้องกำหนดเขตพื้นที่เพาะปลูกทั้งสองเขตให้แล้วเสร็จ พร้อมทั้งคาดว่าจะนำข้อมูลเข้าระบบเพื่อปรับปรุงข้อมูลสารสนเทศและควบคุมการเกษตรได้ภายในปี 2565 นอกจากนั้น ทางการจีนได้กำหนดโควตาการนำเข้าและอากรนำเข้าสินค้าเกษตร เพื่อให้เกษตรกรจีนมั่นใจได้ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ ฝ่ายเกษตรประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว แสดงความเห็นว่ายุทธศาสตร์การฟื้นฟูชนบทของจีนให้ความสำคัญการพัฒนาภาคเกษตรและดำเนินการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้จีนมีผลผลิตทางการเกษตรไว้บริโภคภายในประเทศและไม่ต้องพึ่งพาต่างประเทศ รวมทั้งได้มีการนำเครื่องจักรกล เทคโนโลยี และระบบสารสนเทศเข้ามาใช้ในการพัฒนา ซึ่งสามารถทำให้การเกษตรของจีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฉะนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรติดตามและวางแผนรับมือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ โดย ฝ่ายการเกษตรประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว สรุปโดย : มกอช.
