หลังจากที่สหภาพยุโรป (EU) กับญี่ปุ่นร่วมกันจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ (EPA: Economic Partnership Agreement) ทำให้ภาษีที่ผู้ส่งออกสินค้าจาก EU ต้องจ่ายในแต่ละปีคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านยูโรได้รับการยกเลิก ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของ EU ถึง 85% ในปี 2561 และหากความตกลงทางการค้ามีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์จะมีผลให้ญี่ปุ่นงดเว้นการจัดเก็บภาษีถึง 97% ต่อสินค้านำเข้าจาก EU นอกจากนี้ การจัดทำ EPA ยังเป็นการทลายกำแพงการส่งออกอาหารและเครื่องดื่มรายการสำคัญของ EU ให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น 127 ล้านคน และคาดการณ์ว่าเมื่อความตกลงบรรลุผลอย่างสมบูรณ์ มูลค่าการค้ารายปีของ EU และญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นถึง 36 พันล้านยูโร
ภายใต้ความตกลง EPA ได้อนุญาตให้ EU เพิ่มปริมาณการส่งออกเนื้อวัวไปยังประเทศญี่ปุ่น ส่วนการส่งออกเนื้อสุกรรูปแบบผลิตภัณฑ์แปรรูปและเนื้อสุกรสดจะปลอดภาษี อีกทั้งยังให้ความมั่นใจแก่ทั้งสองประเทศได้ว่าสินค้าเกษตรคุณภาพสูงของ EU จะได้รับการคุ้มครองในประเทศญี่ปุ่นด้วยระบบสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GIs: Geographical Indications) และประเทศใน EU จะคุ้มครองเรื่องสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน
ทั้งนี้ ผลของ EPA ทำให้ประเทศญี่ปุ่นประกาศยกเลิกการจำกัดการนำเข้าเนื้อวัวจากสหราชอาณาจักร เร็วกว่ากำหนด 3 ปีหลังจากการห้ามนำเข้าจากปัญหาโรควัวบ้า (BSE: Bovine Spongiform Encephalopathy) ตั้งแต่ปี 2539 ในการนี้ กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นกล่าวว่า จากที่ประชุมร่วมและการตรวจสอบในสหราชอาณาจักรที่แล้วเสร็จเมื่อปี 2561ทำให้ญี่ปุ่นเริ่มการพิจารณานำเข้าเนื้อวัวและเครื่องในวัว และยกเลิกการแบนนำเข้าเนื้อแกะจากสหราชอาณาจักรด้วย โดยประเทศญี่ปุ่นให้ความสนใจที่จะเริ่มการทำข้อตกลงกับสหราชอาณาจักรหลังจาก Brexit และถ้าสหราชอาณาจักรเข้าร่วมข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP: Trans-Pacific Partnership) หลังจากที่ออกจาก EU แล้ว คาดจะยังสามารถคงศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลกได้เหมือนเดิม