ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เผยแพร่รายงานการศึกษาฉบับใหม่เรื่อง ASEAN +3 or ASEAN+ 6 , Which Way Forward? สนับสนุนให้จัดตั้งเขตการค้าเสรีที่ครอบคลุม 10 ประเทศสมาชิกสมาคมอาเซียน รวมกับ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย โดยระบุว่า จะได้ผลประโยชน์มากมายยิ่งกว่าการจัดทำข้อตกลงการค้าระดับเล็กๆ หลายๆ ฉบับ ซึ่งกำลังดำเนินการกันอยู่ในภูมิภาคนี้
การจัดตั้งเขตการค้าเสรี เอฟทีเอ ซึ่งจะประกอบด้วย 16 ชาตินี้ หากจัดตั้งขึ้นมาได้สำเร็จตั้งแต่ปี 2017 ก็จะทำให้บรรดาชาติสมาชิกมีรายได้รวมกันเท่ากับปีละ 285,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปรียบเทียบกับจำนวนประมาณ 228,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำได้ในกรณีการจัดตั้งเอฟทีเอระดับเอเชียตะวันออก นั่นคือ มีเพียง 13 ประเทศ โดยตัดอินเดีย นิวซีแลนด์ และออสเตรเลียออกไป ไทยจะได้รีบผลประโยชน์สูงสุด 28,346 ดอลลาร์สหรัฐ และ 26,728 ดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือมาเลเซีย
รายงานล่าสุดของเอดีบี ชี้ว่า ข้อตกลงในลักษณะที่เรียกกันว่า อาเซียน+6 นี้ จะสามารถสร้างผลประโยชน์ขึ้นมามากมายเหนือกว่าสิ่งที่จะเกิดจากบรรดาข้อตกลงการค้าเสรีทั้งระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาคในเอเชียตะวันออกรวมแล้ว 102 ฉบับ ซึ่งมีทั้งที่ได้สรุปกันไปแล้ว กำลังเจรจากันอยู่ ตลอดจนอยู่ในขั้นเสนอที่จะเปิดเจรจากัน อาจจัดตั้งข้อตกลงแบบครอบคลุมทั่วทั้งเอเชีย ในลักษณะเป็นการรวมศูนย์เอาบรรดาข้อตกลงเอฟทีเอฉบับยิบย่อยทั้งระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาคเข้ามาไว้ด้วยกัน อาเซียนจะต้องทำหน้าที่เป็น ศูนย์กลางโดยธรรมชาติ ของเขตการค้าเสรีซึ่งขยายกว้างออกมาเช่นนี้ แต่เพื่อให้การรวมศูนย์เกิดขึ้นมาได้จริงๆ ก่อนอื่นทางสมาคมอาเซียนก็จะต้องเพิ่มการบูรณาการทางเศรษฐกิจของพวกเขากันเองให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเสียก่อน ขณะที่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ก็ต้องร่วมมือประสานงานกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ส่วนอินเดียจำเป็นต้องดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างให้ยิ่งขึ้นไปอีก
ADB เห็นว่าเมื่อพูดกันอย่างถึงที่สุดแล้ว ข้อตกลงระดับพหุภาคีย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ในโลกที่ดีเป็นอันดับสองที่ต้องอยู่กันจริงๆ แล้ว นี่แหละคือสิ่งที่ควรจะทำ
ที่มา : ADB
