เนื้อวัวญี่ปุ่นส่งออกไต้หวันพุ่งหลัง BSE

                ไต้หวันได้กลายมาเป็นผู้นำเข้าเนื้อวัวรายใหญ่สุดของญี่ปุ่นในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีหลังจากยกเลิกระงับการนำเข้าเนื้อวัวจากญี่ปุ่น แซงหน้าฮ่องกงที่เคยเป็นผู้นำเข้าเนื้อวัวใหญ่รายใหญ่สุดของญี่ปุ่นในปี 2560 โดยไต้หวันได้ระงับการนำเข้าเนื้อวัวจากญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานถึง 16 ปีตั้งแต่ปี 2544 จนถึงเดือนกันยายนปี 2560 เนื่องจากโรควัวบ้า (Bovine spongiform encephalopathy : BSE) ระบาด ทั้งนี้ ในปี 2543 ก่อนเกิดการระบาดของโรคดังกล่าว ญี่ปุ่นเคยส่งออกเนื้อวัวไปยังไต้หวันมากถึง 4 ตัน
                ข้อมูลจากกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น (Japan’s Ministry of Finance) เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นได้ส่งออกเนื้อวัวมากถึง 322 ตันในเดือนมกราคม ถึง มิถุนายน 2561 เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วมากถึงร้อยละ 44 ในช่วงเวลาเดียวกัน จึงมีการคาดการณ์ว่ายอดการส่งออกเนื้อวัวของญี่ปุ่นในปี 2561 จะเพิ่มสูงกว่าปี 2560
                เนื้อวัวญี่ปุ่นกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในไต้หวัน เนื่องจากมีชื่อเสียงด้านคุณภาพและการเพาะเลี้ยงที่ดี อีกทั้งยังมีวิธีบริโภคที่ดีที่สุด ทำให้เนื้อวัวญี่ปุ่นกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภัตตาคารชั้นสูงในไต้หวัน ผู้คนมักซื้อเนื้อญี่ปุ่นเป็นของขวัญระดับหรู หรือบริโภคหลังจากกลับมาจากการไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น ทำให้การส่งออกเนื้อวัวญี่ปุ่นไปยังไต้หวันจึงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
               ด้วยเหตุที่ผู้บริโภคชาวไต้หวันนิยมบริโภคเนื้อวากิว A5 มากที่สุด ทำให้ผู้ผลิตเนื้อวากิวคุณภาพสูงรายใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่นคาดว่า จะสามารถเพิ่มการส่งออกเนื้อวากิวไปยังไต้หวันเป็น 3 เท่า ซึ่งมีมูลค่า 26.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (870 ล้านบาท) ในปี 2561 
               นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้จัดตั้งกลุ่มคนทำงานในการดำเนินการเพิ่มยอดการส่งออกสินค้าเกษตรในเดือนกรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายว่าจะเพิ่มยอดการส่งออกจาก 7.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.3 แสนล้านบาท) ในปี 2560 ให้ถึง 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.9 แสนล้านบาท) ภายในปี 2562

ที่มา: www.globalmeatnews.com สรุปโดย: มกอช.