เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2561 คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศ Commission Directive (EU) 2018/350 ที่ได้พิจารณาแก้ไขภาคผนวก (Annex) ให้มีความเป็นปัจจุบัน และสอดคล้องกับคู่มือการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมของพืชดัดแปลงทางพันธุกรรม (Guidance) ฉบับปี 2553 โดยได้กำหนดให้องค์ประกอบหลักใน Guidance ปรากฎอยู่ใน Directive 2001/18/EC และปรับแก้ไขได้ครอบคลุมประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
1. Part C ของ Annex II ว่าด้วยวิธีประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมการประเมินความเสี่ยง 6 ขั้นตอน ที่ระบุไว้ใน Guidance
2. Part D ของ Annex II กำหนดให้สรุปการประเมินความเสี่ยงทางสิ่งแวดล้อม โดยแยกเป็นพืช GM ที่ไม่ใช่ higher plants (Section D.1) และพืช GM higher plants (Section D.2)
3. ในกรณีที่จะประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมของพืช GM ที่ทนต่อยากำจัดวัชพืช แนวทางปรับใช้จะต้องเป็นไปตาม Directive 2001/18/EC โดยการประเมินจะต้องครอบคลุมถึงความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้ผลิตภัณฑ์อารักพืช และการใช้สารดังกล่าวกับพืช GM ตาม Regulation (EC) No 1107/2009
4. Annex III B ของ Directive 2001/18/EC กำหนดรายการข้อมูลที่ต้องระบุสำหรับการแจ้งปล่อยพืช GM higher plants โดยให้ปรับใช้กับการแจ้ง Part C และ Part B นอกจากนี้ โครงสร้างเนื้อหาและรายละเอียดจะต้องเป็นไปตาม Guidance และเนื่องจากการปรับแก้ไขส่วนใหญ่ให้ครอบคลุม Part C จึงควรแยกการแจ้งเตือนทั้ง 2 ประเภท ออกจากกันเพื่อความชัดเจนและง่ายต่อการดำเนินงานของผู้แจ้ง และหน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก
5. การยื่นคำร้องขออนุญาตวางจำหน่ายพืช GM จะอยู่ภายใต้ Regulation (EC ) No 1829/2003 เพื่อให้เกิดความคล่องตัวต่อการดำเนินงาน คณะกรรมาธิการจึงเห็นควรให้จัดอันดับองค์ประกอบข้อมูลในการแจ้ง Part C ของ Directive 2001/18/EC ให้เป็นไปตาม Commission Implementing Regulation (EU) No 503/2013
6. Annex IV กำหนดให้การแจ้ง Part C จะต้องยื่นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการตรวจดักตามความก้าวหน้าของเทคนิค โดยเฉพาะการแจ้งเครื่องมืออ้างอิง
ทั้งนี้ กฎระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 20 วัน หลังจากประกาศ (ประกาศ ณ วันที่ 9 มีนาคม 2561) โดยประเทศสมาชิกต้องปรับกฎระเบียบภายในวันที่ 29 กันยายน 2562 พร้อมส่งมอบให้แก่คณะกรรมาธิกายุโรปทราบด้วย
หมายเหตุ : GM higher plants หมายถึง พืชชั้นสูงหรือพืชที่มีเมล็ด เช่น กลุ่มสน ข้าว ข้าวโพด อ้อย หรือมะม่วง