วิกฤติสินเชื่อสหรัฐฯยังพ่นพิษไม่เลิก ส่งออกไทยไปสหรัฐฯโดนหางเลข 9 เดือนแรกลด 3.9% ชี้เหตุค่าเงินบาทแข็งทำสินค้าไทยราคาแพง สู้ราคาสินค้าราคาต่ำจากจีนและเวียดนามไม่ได้ ไม่สอดรับกับกำลังซื้อของชาวอเมริกันที่ตกฮวบตามแรงฉุดของภาคอสังหา ริมทรัพย์ชะลอตัว จับตาชนวนระเบิดเวลาใหม่การเงินโลกหลังปัญหาซับพลายลามถึงบัตรเครดิต-สินเชื่อรถยนต์ ไอเอเอฟเตือนความเสี่ยงรอบใหม่แรงกว่าเดิม ระวังฉุดเศรษฐกิจโลกถอย
กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ตลาดสหรัฐฯถือเป็นตลาดหลักของไทยปี 2549 มีมูลค่าส่งออก 129,720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราขยายตัว 11.7% สัดส่วนการส่งออก 15% ของการส่งออกของไทย
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่าการส่งออกสินค้ากุ้งแช่แข็งและแปรรูปในเดือนกันยายนปรับดลลง 9.8% เนื่องจากการส่งออกไปตลดาหลักลดลงทั้งสหรัฐฯและญี่ปุ่น จากปีที่ผ่านมาตลาดทั้งสองมีสัดส่วน 58-59% และ 20-21% แต่ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ปรับลดลงเหลือเพียง 53% และ 18% ตามลำดับ มีเพียงตลดาสหภาพยุโรปเท่านั้นที่ปรับเพิ่มขึ้นเพราะไทยได้สิทธิ GSP สินค้ากุ้งคืน แต่สัดส่วนยังน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐฯและญี่ปุ่น การส่งออกไปสหรัฐฯลดลงจาก 3 สาเหตุ
1. สหรัฐฯยกเลิกภาษี AD กุ้งเอกวาดอร์ หลังจากเอกวาดอร์ชนะตามคำตัดสินขององค์การกการค้าโลก แต่ไทยอยู่ระหว่างขอทบทวนผลซึ่งจะทราบผลต้นปี 2551
2. กุ้งไทยเป็นสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศสูง เจอปัญหาค่าเงินแข็งมกกว่าประเทศอื่น
3. ปัญหาซับพลายในตลาดสหรัฐฯส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้ออเดอร์สำหรับเทศกาลคริสต์มาสไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องสต๊อคสินค้าไว้นานเพื่อนำไปใช้ปี 2551 ซึ่งจะกระทบการส่งออกปีหน้า