วันที่ 29 เมษายน 2559 คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศ ว่าด้วยการออกมาตราการให้มีการสุ่มตรวจหาสารปราบศัตรูพืชตกค้างในสินค้าอาหารที่วางจำหน่ายในสหภาพยุโรป เพื่อประเมินความเสี่ยงที่มีต่อผู้บริโภคโดยครอบคลุมระหว่างปี 2560-2562
ทั้งนี้หน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารประจำสหภาพยุโป (European Food Safety Authority : EFSA) ได้รายงานผลการสุ่มตรวจยาฆ่าแมลงในสินค้าอาหาร จำนวน 683 รายการจากสินค้าอาหารที่แตกต่างกัน 32 ชนิด พบว่ามีสารตกค้างเกินกว่าค่าอนุโลมสูงสุด (MRLs) อยู่ในระดับร้อยละ 1 โดยมีอัตราความคาดเคลื่อนที่ร้อยละ 0.75 จึงเห็นควรให้กำหนดแผนการสุ่มตรวจเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี โดยกำหนดชนิดสินค้าสารปราบศัตรูพืชรวมถึงปริมาณในการสุ่มตรวจโดยให้ขึ้นอยู่กับประชากรของประเทศนั้นๆ และกำหนดขั้นต่ำว่าต้องสุ่มตรวจอย่างน้อย 12 ตัวอย่างต่อ 1 สินค้าต่อปี
ทั้งนี้ หากประเทศสมาชิก EU ตรวจพบสารปราบศัตรูพืชที่มีสารออกฤทธิ์ตัวอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ หรือตรวจพบเมแทบอไลต์การเสื่อมสภาพหรือปฎิกริยาใดๆ ที่พบจะต้องทำการแจ้งให้คณะกรรมาธิการยุโรปทราบ นอกจากนี้ประเทศสมาชิก EU ยังให้ความสำคัญกับการสุ่มตรวจสินค้าอาหารกลุ่มสำหรับเด็กทารกและเด็กเล็กว่าค่าอนุโลมสูงสุดสำหรับสินค้ากลุ่มนี้จะต่ำกว่าอาหารปกติ ซึ่งกำหนดไว้ในมาตรา 10 ฉบับที่ 2006/141/EC และมาตรา 7 ฉบับที่ 2006/125/EC กฏระเบียบดังกล่าวจะมีผลปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป
สำหรับรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากเวปไซต์ ดังนี้ http://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32016R0662&from=EN
ที่มา: thaieurope.net สรุปโดย: มกอช.