ในขณะนี้ยูเครนได้อนุญาตให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปสามารถส่งออกเนื้อวัวติดกระดูกและเนื้อวัวมายังยูเครนได้แล้ว เนื่องจากยูเครนยอมรับระบบการควบคุมโรควัวบ้า (Bovine Spongiform Encephalopathy : BSE) ของสหภาพยุโรป ถือเป็นมาตรการส่งเสริมการค้าควบคู่ไปกับข้อตกลงทางการค้าเสรี (FTA) ระหว่างยูเครนและสหภาพยุโรป (มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559) โดยก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปี 2558 ยูเครนได้อนุญาตการนำเข้าเนื้อวัวไร้กระดูกจากบางประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (ฝรั่งเศส เดนมาร์ก และโปแลนด์) เนื่องจากคณะกรรมาธิการยุโรปปฏิบัติตามคำแนะนำจากยูเครนเกี่ยวกับโรควัวบ้าที่ต้องสอดคล้องกับมาตรฐานขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE)
การประชุมระหว่างสหภาพยุโรปและยูเครนเมื่อช่วงต้นปี 2558 ได้นำไปสู่ “แผนกลยุทธ์” ในการทำงานร่วมกันเพื่อกำจัดอุปสรรคทางการค้าของสินค้าเนื้อวัวไร้กระดูก เนื้อวัวติดกระดูก และเนื้อลูกวัว สำหรับประเทศสมาชิกอื่นๆ ในสหภาพยุโรป ดังนั้น ยูเครนและคณะกรรมาธิการยุโรปจึงได้ร่วมกันตรวจสอบความเสี่ยงในการควบคุมโรค โดยในเบื้องต้นพบว่าเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศมีความเสี่ยงต่ำในการเกิดโรควัวบ้า และโปแลนด์เป็นประเทศที่ควบคุมความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ดี ทำให้เป็นผลต่อเนื่องถึงการพิจารณาอนุญาตให้นำเข้าสินค้าเนื้อวัวจากทุกประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในขณะนี้
ทั้งนี้คณะกรรมาธิการยุโรปจะร่วมมือกับยูเครนเพื่อกำจัดการกีดกันทางการค้าพร้อมกับผลักดันการค้าระหว่างประเทศต่อไป
ที่มา: thebeefsite สรุปโดย: มกอช.