สหภาพยุโรปออกประกาศกฎระเบียบ 3 ฉบับ ซึ่งกำหนดค่าอนุโลมตกค้างสูงสุด ได้แก่
1. Commission Regulation (EU) 2015/1079 เป็นการแก้ไข Regulation (EU) NO 37/2010 ว่าด้วยการกำหนดค่าอนุโลมตกค้างสูงสุดของยา hexaflumuron กลุ่มใช้ป้องกันปรสิตในสัตว์ (Antiparasitic agents) โดยกำหนดค่า MRLs ของ hexaflumuron ในเนื้อและหนังปลา ที่ระดับ 500 µg/kg โดยยังไม่กำหนดให้ปรับใช้ค่า MRLs ดังกล่าวกับสัตว์กลุ่มอื่นๆ ที่ใช้เป็นอาหาร
ทั้งนี้กฎระเบียบดังกล่าวจะมีผลตามกฎหมาย 20 วัน ภายหลังจากที่มีประกาศลงใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2558) โดยให้ปรับใช้ค่า MRLs ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2558 เป็นต้นไป สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32015R1079&from=EN
2. Commission Regulation (EU) 2015/1080 เป็นการแก้ไข Regulation (EU) NO 37/2010 ว่าด้วยการอนุญาตให้ใช้ยา propyl 4-hydroxybenzoate and its sodium salt ในสัตว์ทุกชนิดที่ใช้เป็นอาหาร โดยไม่มีการกำหนดค่า MRLs แต่ให้ใช้ได้เฉพาะเพื่อการถนอมอาหารเท่านั้น (Preservative)
ทั้งนี้กฎระเบียบดังกล่าวจะมีผลตามกฎหมาย 20 วัน ภายหลังจากที่มีประกาศลงใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2558) โดยให้ปรับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2558 เป็นต้นไป สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32015R1080&from=EN
3.Commission Regulation (EU) 2015/1308 เป็นการแก้ไข Regulation (EU) NO 37/2010 ว่าด้วยการกำหนดค่าอนุโลมตกค้างสูงสุดของยา “aluminium salicylate, basic” ที่ใช้ป้องกันท้องเสียและลำไส้อักเสบในสัตว์ โดยกำหนดค่า MRLs ในกลุ่มโค-กระบือ (Bovine) แพะ ม้า และกระต่าย ที่ระดับต่างๆ ดังนี้
-200 µg/kg ในกล้ามเนื้อ
-500 µg/kg ในไขมัน
-1,500 µg/kg ในตับ
-1,500 µg/kg ในไต และกำหนดค่า MRLs ในน้ำนมของกลุ่มโค-กระบือ แพะ และม้า ที่ระดับ 9 µg/kg ส่วนสัตว์ชนิดอื่นๆที่ใช้เป็นอาหาร กฎระเบียบฉบับนี้ ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องกำหนดค่า MRLs หากใช้สารดังกล่าวในลักษณะทางผิวหนัง โดยค่าอนุโลมตกค้างสูงสุดดังกล่าวจะอนุญาตให้ใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559
ทั้งนี้กฎระเบียบดังกล่าวจะมีผลตามกฎหมาย 20 วัน ภายหลังจากที่มีประกาศลงใน EU Official Journal (ประกาศ ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2558) โดยให้ปรับใช้ค่า MRLs ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2558 เป็นต้นไป สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=CELEX:32015R1308&from=EN
ที่มา: มกอช./สปษ.บรัสเซลส์ สรุปโดย: มกอช.