เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2557 มีการตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกชนิด H5 ในซากไก่ตายภายในฟาร์มไก่ในเขตนางาโอกะ จังหวัดมิยาซากิ บนเกาะคิวชู ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทางจังหวัดมิยาซากิได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัติตามกระบวนการด้านการกักกันสัตว์ทันที โดยทำลายไก่ที่เลี้ยงในฟาร์มดังกล่าวทั้งหมด 4,000 ตัว และกำหนดให้พื้นที่ในรัศมี 3 กิโลเมตรจากฟาร์ม เป็นพื้นที่ห้ามขนส่งสัตว์ปีกออก ตลอดจนออกประกาศห้ามเคลื่อนย้ายและจำหน่ายสัตว์ปีกจำนวน 19,580 ตัว ในฟาร์ม 3 แห่งที่อยู่ในจังหวัดมิยาซากิ และจังหวัดโออิตะ
ฝ่ายส่งเสริมการปศุสัตว์ของจังหวัดมิยาซากิแจ้งต่อสื่อมวลชนในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2557 เวลา 03.00 น. ว่า เมื่อวันที่ 14-15 ธันวาคมที่ผ่านมา พบการป่วยตายผิดปกติของไก่ภายในฟาร์มดังกล่าวจำนวน 29 ตัว ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยชุดทดสอบอย่างง่ายของเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรญี่ปุ่น พบว่าไม่มีเชื้อไข้หวัดนก แต่เมื่อทำการตรวจดีเอ็นเอซากไก่ตาย 3 ตัว และไก่มีชีวิตจากฟาร์มดังกล่าวอีก 2 ตัว พบว่าเป็นเชื้อไข้หวัดนกชนิด H5
ทั้งนี้ ในเขตพื้นที่รัศมี 3 กิโลเมตรจากฟาร์ม ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก มีฟาร์มไก่อีก 1 ฟาร์ม ซึ่งมีไก่จำนวน 8,280 ตัว และเขตพื้นที่รัศมี 10 กิโลเมตรจากฟาร์ม ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามขนส่งสัตว์ปีกออก มีฟาร์มไก่จำนวน 2 ฟาร์ม รวมมีไก่ราว 11,300 ตัว
สำหรับจังหวัดมิยาซากิ ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการเลี้ยงไก่เนื้อ โดยปัจจุบันมีจำนวนฟาร์มไก่ในจังหวัดทั้งหมด 483 แห่ง มากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ คิดเป็น 20% ของจำนวนฟาร์มไก่ทั่วประเทศ มีไก่ทั้งหมดราว 28,180,000 ตัว ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศเช่นกัน (ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2557 โดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น) ทั้งนี้ ในปี 2550 เคยเกิดระบาดของไข้หวัดนกในจังหวัดมิยาซากิ โดยมีการทำลายไก่ไปราว 200,000 ตัว และในปี 2554 ได้เกิดการระบาดในจังหวัดมิยาซากิและพื้นที่ใกล้เคียงอีกครั้ง โดยพบการระบาดในฟาร์มไก่ 13 แห่ง โดยมีการทำลายไก่ไปราว 1,020,000 ตัว
ล่าสุด กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น ได้ออกประกาศให้ระงับการออกเอกสาร Certificates of Import Quarantine ในการส่งออกสัตว์ปีกมีชีวิต รวมทั้งเนื้อสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากญี่ปุ่นไว้ชั่วคราว จนกว่าจะสามารถตรวจสอบรายละเอียดมาตรการในการนำเข้าสัตว์ปีกจากญี่ปุ่นของประเทศผู้นำเข้าแต่ละประเทศได้ก่อน
ที่มา : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ Mainichi Shimbun สรุปโดย: มกอช.
