คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศแก้ไขกฎระเบียบ คือ กฎระเบียบ Commission Implementing Regulation (EU) No 467/2013 of 16 May 2013 amending Regulation (EC) No 206/2009 ว่าด้วยการควบคุมความปลอดภัยอาหารที่มีแหล่งกำเนิดจากสัตว์ซึ่งผู้โดยสารขาเข้านำเข้าไปสู่สหภาพยุโรปเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งจะมีผลให้ผู้ที่เดินทางจากประเทศที่สามเข้าไปในสหภาพยุโรป ต้องสำแดงใบกำกับการตรวจรับรองของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ต้นทาง ณ ด่านนำเข้า โดยกฎระเบียบดังกล่าวได้แก้ไขข้อกำหนดสำหรับการนำเข้าอาหารประเภทเนื้อ (meat) และ นม (milk) ซึ่งที่ผ่านมามีการอนุโลมเป็นกรณีพิเศษกับผู้ที่มาจากกลุ่มประเทศ โครเอเชีย แอนดอร์ร่า หมู่เกาะฟาโรห์ กรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ ลิชเทนสไตน์ นอร์เวย์ แซนมาริโน และสวิตเซอร์แลนด์ สามารถนำเข้าได้โดยไม่ต้องมีใบรับรองสุขอนามัยสัตว์กำกับ หากมีปริมาณนำเข้าไม่เกิน 10 กิโลกรัมต่อคน
ทั้งนี้ EU ออกมาตรการดังกล่าวเพื่อเสริมสร้างการควบคุมโรคระบาดที่มาจากสัตว์ โดยเฉพาะโรคปากเท้าเปื่อย ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า EU ไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะแต่การควบคุมการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารในเชิงพาณิชย์เท่านั้น แต่ครอบคลุมไปถึงการนำเข้ามาบริโภคของบุคคลด้วย และผู้ที่ต้องการนำผลิตภัณฑ์อาหารที่มีเนื้อและนมเป็นส่วนประกอบเข้าไปในเขตสมาชิก EU โดยผู้เดินทางดังกล่าวจะต้องมีเอกสารกำกับรับรองที่ออกให้โดยกรมปศุสัตว์แนบไปด้วย มิเช่นนั้นจะไม่สามารถนำสินค้าเข้าไปยัง EU ได้
มาตรการดังกล่าวจะมีผลตามกฎหมาย นับตั้งแต่ที่สนธิสัญญาเข้าร่วมสมาชิกสหภาพยุโรปของประเทศ โครเอเชีย มีผลเป็นต้นไป (มีผลในวันที่ 1 กรกฎาคม 2556)
สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากเว็ปไซต์ ดังต่อไปนี้
http://eur-lex.europa.eu/LexUriServ/LexUriServ.do?uri=OJ:L:2013:135:0005:0007:EN:PDF
ที่มา : มกอช./สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำสหภาพยุโรป
ณ กรุงบรัสเซลส์ (18 มิ.ย.56)
