ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมส่งออกกุ้งกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบจากปัญหาโรคตายด่วน (Early Mortality Syndrome: EMS) ทำให้มีปริมาณกุ้งเข้าสู่ตลาดลดลงจากประมาณ 300 ตู้/วัน ในช่วงปลายปี 2555 เหลือเพียง 30-60 ตู้/วันเท่านั้น ส่งผลให้ราคากุ้งเพิ่มสูงขึ้นจาก 120 บาท/กิโลกรัม ในกุ้งขนาด 100 ตัว/กิโลกรัม เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 150-200 บาท ซึ่งทำให้ห้องเย็นหรือผู้ส่งออกขาดทุนประมาณกิโลกรัมละ 80 บาท และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังผู้ประกอบการรายเล็ก เช่น ผู้ประกอบการรับแกะกุ้ง
แนวทางการแก้ไขปัญหาอาจต้องมีการนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศ แต่ในบางประเทศเช่น อินเดีย มีข่าวพบปัญหาสารตกค้างบ่อยครั้ง ทำให้ต้องมีการทบทวนแนวคิดดังกล่าว ส่วนการใช้วัตถุดิบอื่นทดแทน เช่น ปลา ก็ไม่มีปริมาณมากพอที่จะรองรับได้ ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการส่งออกกุ้งมีการนัดหารือและหาวิธีการแก้ไข โดยรอผลการเลี้ยงกุ้งที่จะทราบอัตรารอดในช่วงเดือนเมษายน ไปจนถึงขอความช่วยเหลือจากภาครัฐในลักษณะเงินอุดหนุนและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งวิกฤติในขณะนี้ทำให้อุตสาหกรรมห้องเย็นหยุดชะงักมาเป็นเวลากว่า 7 เดือน
โรค EMS พบว่ามีการระบาดในทั้งกุ้งกุลาดำ และกุ้งขาวแวนนาไม เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย 3 กลุ่ม ได้แก่กลุ่ม Burkholdiales, Sphinggononadales และ Actinomycetales ที่เข้าทำลายตับของกุ้งจนตายในระยะก่อน 1 เดือนหลังจากปล่อยกุ้ง โดยผู้ประกอบการรายหนึ่งให้ความเห็นว่า EMS อาจเกิดจากสายพันธุ์กุ้ง เนื่องจากการเร่งการเจริญเติบโตมากเกินไป ทำให้กุ้งอ่อนแอต่อการเข้าทำลายของเชื้อโรค
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ (28 มี.ค.56)
