กาแฟส่งออกเวียดนามหลายเที่ยวสินค้าถูกปฏิเสธในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาซึ่งส่งผลต่อชื่อเสียงของเวียดนามในฐานะเป็นผู้ส่งออกกาแฟอันดับ 2 ของโลกตกต่ำลง ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าถ้าไม่สามารถปรับปรุงคุณภาพได้ สถานการณ์จะเลวร้ายลงกว่านี้
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งยุโรปได้ปฏิเสธการนำเข้ากาแฟเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ในปีเพาะปลูก 2548/49 ที่ท่าเรือ Antwerp ของเบลเยียมได้ปฏิเสธกาแฟ 600,000 ห่อจากเวียดนามหรือ 72% ของเที่ยวสินค้า และท่าอื่นของยุโรปปฏิเสธนำเข้า 1 ล้านห่อจาก 1.4 ล้านห่อ และในปี 2549/50 ตลาดล่วงหน้าลอนดอนได้ปฏิเสธการนำเข้ากาแฟ 708,250 ห่อ ซึ่ง 80% เป็นกาแฟจากเวียดนาม ซึ่งเพิ่มจากเดิม 19%
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า กาแฟเวียดนามถูกปฏิเสธนำเข้าเพราะคุณภาพต่ำลงทั้งรสชาติและสีต่ำกว่ามาตรฐานระหว่างประเทศ
Le Van Linh รองอธิบดีกรมการเกษตรและพัฒนาชนบท ระบุว่าถึงแม้ว่าผลผลิตส่งออกที่ได้รับการยอมรับก็จะได้รับราคาที่ต่ำมาก โดยผลผลิตกาแฟโรบัสต้าของอินเดียและอินโดนีเซียจะได้ราคาสูงกว่าของเวียดนาม 50-100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปัญหาเกิดจากการเก็บเกี่ยวกาแฟที่ยังไม่แก่จัด โดยมีกาแฟสุกเพียง 10-20% และการแปรรูปแย่มาก ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนปัญหาการเก็บเกี่ยวกาแฟที่ยังไม่สุกนี้มาหลายปีแล้ว แต่ไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
มีข้อเสนอมาตรการที่ระบุว่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้แก่ การเปลี่ยนพันธุ์ การเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูก การเปลี่ยนพฤติกรรมการเก็บเกี่ยว มาตรฐานการแปรรูป และการให้ใบรับรองคุณภาพกาแฟ อย่างไรก็ตาม เกษตรกรและผู้ประกอบการก็ยังไม่สนใจกับข้อเสนอมาตรการนี้