ตามที่ได้เคยรายงานการสุ่มตรวจหาการปนเปื้อนเชื้อซลโมเนลล่าในฟาร์มของสหภาพยุโรปของหน่วยงานด้านความปลอดภัยด้านอาหารของสหภาพยุโรป พบไก่ไข่มีการปนเปื้อนซัลโมเนลล่าร้อยละ 31.7 ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มได้ดังนี้
1. โปรตุเกสเป็นประเทศที่มีการติดเชื้อมากที่สุด เกินกว่าร้อยละ 75
2. สเปน สาธารณรัฐเชค โปแลนด์เป็นประเทศที่มีการติดเชื้อลำดับรองลงมา เกินกว่าร้อยละ 50
3. สหราชอาณาจักร เป็นประเทศที่มีการติดเชื้อต่ำคือเพียงร้อยละ 12
4. ลักเซมเบิร์ก สวีเดน และสโลวัก เป็นประเทศปลอดเชื้อซัลโมเนลล่า
คณะกรรมาธิการยุโรปจะนำข้อมูลนี้เป็นฐานในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังหลังจากที่ได้พยายามดำเนินการในบางประเทศแต่ไม่ประสบผลเท่าที่ควร โดยมีเป้าหมายที่จะให้ทุกประเทศสมาชิกเป็นประเทศปลอดเชื้อซัลโมเนลล่าภายในปี 2551 และจะออกมาตรการควบคุมไข่ไก่เพื่อการบริโภคว่าจะต้องมาจากฟาร์มปลอดเชื้อซัลโมเนลล่าเท่านั้น ยกเว้น ไข่ไก่ที่ได้รับการฆ่าเชื้อด้วยระบบพาสเจอร์ไรเซอร์ก่อนจะสามารถอนุญาตให้วางจำหน่ายในสหภาพยุโรปได้เช่นกัน ตั้งแต่ 1 มกราคม 2553
ถึงแม้ปัจจุบันสหภาพยุโรปไม่มีการนำเข้าไข่ไก่จากนอกสหภาพยุโรปมาตรการเข้มงวดดังกล่าวนี้จึงยังไม่มีผลกระทบกับประเทศนอกสมาชิก แต่ประเทศที่มีการนำเข้าจากประเทศสมาชิก เช่น สหราชอาณาจักรซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการปนเปื้อนเชื้อซัลโมเนลล่าต่ำมีการมีการกำหนดมาตรการนำเข้าจากประเทศสมาชิกอื่นอย่างเข้มงวด เช่น ให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อในไก่ไข่ การบรรจุหีบห่อต้องระบุวันที่ควรบริโภค ต้องตรวจสอบย้อนกลับได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกควรตระหนักว่าขณะนี้สหภาพยุโรปค่อนข้างให้ความสนใจและเข้มงวดในเรื่องเชื้อ ซัลโมเนลล่าในสินค้าอาหาร
สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ