อุตสาหกรรมการผลิตไก่ของอาร์เจนตินากำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2546 จนถึงปัจจุบัน มีการผลิตเพิ่มขึ้นร่วม 3 เท่าตัว จาก 300 ล้านตัวเป็นกว่า 700 ล้านตัวในปี 2554 สามารถตอบสนองความต้องการในการบริโภคที่สูงขึ้นกว่า 2 เท่า จาก 18 กิโลกรัมต่อคนต่อปี เพิ่มสูงขึ้นถึง 39.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี และมีการส่งออกสูงขึ้นถึง 10 เท่า ทำให้ตลาดส่งออกในปัจจุบันมีมูลค่าถึง 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (20,800 ล้านบาท) และยังมีอัตราเติบโตต่อเนื่องถึงปีละ 37% โดยสำหรับปี 2555 ถึงขณะนี้อาร์เจนตินามียอดส่งออกไก่สูงถึง 356,000 ตัน ซึ่งมีแนวโน้มที่ยอดส่งออกไก่สะสมจะเพิ่มขึ้นถึง 2 ล้านตัน ทำให้อาร์เจนตินาที่ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตไก่อันดับ 9 และส่งออกเป็นอันดับที่ 6 ของโลก มีความมั่นใจที่จะก้าวขึ้นสู่ 4 อันดับแรกของประเทศผู้ผลิตไก่ในเร็ววันนี้
เทคโนโลยีการผลิตช่วยทำให้อัตราแลกเนื้อและปริมาณการผลิตต่อรอบเพิ่มสูงขึ้น จากในปี 2513 ที่การผลิตไก่มีอัตราแลกเนื้อ 2.8:1 (กิโลกรัมอาหาร:กิโลกรัมเนื้อ) และใช้เวลาเลี้ยง 75 วัน เพื่อให้ได้ผลผลิต 2,500 กิโลกรัม ได้มีการพัฒนาจนในปี 2553 อัตราแลกเนื้อเป็น 2:1 โดยใช้เวลาเลี้ยง 46 วัน ได้ผลผลิต 2,760 กิโลกรัม และผู้ผลิตไก่ยังตั้งเป้าว่า ในปี 2560 จะผลิตได้อัตราแลกเนื้อที่ 1.7:1 ใช้เวลาเลี้ยงเพียง 38 วัน แต่ได้ผลผลิตถึง 2,800 กิโลกรัม ทำให้สามารถผลิตได้จำนวนรอบต่อปีสูงขึ้น เพิ่มปริมาณการผลิตต่อพื้นที่ และลดปริมาณอาหารที่ใช้ต่อรอบลง
แผนการผลิตไก่ในปี 2563 ของอาร์เจนตินา วางแผนจะทำให้ผู้บริโภคเพิ่มความนิยมบริโภคเนื้อไก่ ทำให้อัตราการบริโภคเพิ่มสูงขึ้นถึง 50 กิโลกรัมต่อคนต่อปี และเพิ่มปริมาณการผลิตให้สูงขึ้นถึงปีละ 3.1 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าปี 2553 ถึง 91% ทำให้มีการสร้างงานอีกราว 50,000 ตำแหน่ง เป็นแรงงานรวมประมาณ 200,000 คน ในอุตสาหกรรมที่ตั้งเป้าหมายส่งออกถึง 600,000 ตันต่อปี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบระหว่างการส่งออกผลิตภัณฑ์พืชอาหารสัตว์ ได้แก่ ถั่วเหลืองและข้าวโพด 1 ตัน จะมีมูลค่าส่งออกประมาณ 620 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20,000 บาท) ในขณะที่หากใช้ป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมไก่ จะสามารถได้ผลตอบแทนสูงถึง 2,300-2,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 70,000-90,000 บาท) ต่อหนึ่งตันของอาหารที่ใช้ผลิต เมื่อส่งออกเป็นผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก
