TH EN
A A A

มาเลเซียลั่น 2020 ขึ้นแท่น “ศูนย์กลาง” ยางโลก

31 พฤษภาคม 2555   
               
สถาบันวิจัยยางมาเลเซียเผยแผนพัฒนาอุตสาหกรรมยางระยะยาวตั้งแต่ปี 2010 - 2020 เพื่อกรุยทางขึ้นสู่ผู้นำตลาด และเตรียมเป็นศูนย์กลางการซื้อขายยางของโลก โดยมีแนวทาง 4 ประการคือ

                 1. เพิ่มราคายางธรรมชาติ รักษาเพดานราคาให้มีเสถียรภาพ และเพิ่มปริมาณผลผลิตจาก 1.8 ตัน/เฮกตาร์ (288 กิโลกรัม/ไร่) เป็น 2.2 ตัน/เฮกตาร์ (352 กิโลกรัม/ไร่)
                   2. มาเลเซียต้องเป็นศูนย์กลางยางโลก (Rubber Centre) ในปี 2020
                 3. วางโครงสร้างคณะกรรมการ โดยกำหนดกรอบการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ เพื่อแปรรูปยางพาราเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ4.             เพิ่มสัดส่วนการผลิตถุงมือยางให้ได้ 65% ของความต้องการทั่วโลก เพื่อก้าวเป็นผู้นำอุตสาหกรรมผลิตถุงมือยางที่มีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท ให้ได้ภายในปี 2020

               ปัจจุบันไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางพาราอันดับหนึ่งของโลก สร้างรายได้เข้าประเทศเฉพาะในปี 2554 ถึง 3.39 แสนล้านบาท และอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีประเทศหน้าใหม่ที่เร่งส่งเสริมการผลิตทั้ง ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม และประเทศในแอฟริกา ไทยจึงจำเป็นต้องเตรียมมาตรการทั้งเชิงรุกและเชิงรับสำหรับยางพาราให้พร้อมก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
 
 
 
 
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (31/05/55)
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

บทความนี้มีประโยน์หรือไม่?