แหล่งข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดข้าวโพดหวานจากไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2549 และประกาศผลการพิจารณาเบื้องต้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2549 ที่จะเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี)ชั่วคราวเป็นเวลา 6 เดือนก่อนประกาศผลการไต่สวนขั้นสุดท้าย ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เมษายน ได้ประกาศผลการไต่สวนขั้นสุดท้ายแล้วโดยจะเรียกเก็บภาษีเอดีข้าวโพดหวานจากไทยในอัตรา 3.1-12.9%
อย่างไรก็ดี คณะกรรมาธิการฯได้เสนอทางเลือกว่าจะไม่เก็บภาษีเอดีหากผู้ส่งออกไทยตกลงที่จะส่งออกในราคาและปริมาณที่คณะกรรมาธิการฯจะกำหนด โดยไทยต้องแจ้งข้อคิดเห็นเกี่ยวกับผลการไต่สวนขั้นสุดท้ายและข้อเสนอดังกล่าวให้คณะกรรมาธิการฯภายในวันที่ 30 เมษายนศกนี้ เบื้องต้นกำหนดจะดำเนินมาตรการเอดีข้าวโพดหวานของไทยประมาณวันที่ 20 มิถุนายน 2550
ด้านนายโรจน์ บุรุษรัตนพันธุ์ ประธาน บริษัท ริเวอร์แคว อินเตอร์เนชั่นแนลอุตสาหกรรมอาหาร จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 เมษายน สมาชิกกลุ่มข้าวโพดหวานสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป 27 บริษัทหารือกันได้ข้อสรุป 2 ด้านคือ หนึ่ง จะสรุปท่าทีนำเสนอต่ออียูในเรื่องการกำหนดราคาและปริมาณการส่งออกให้ซับซ้อนน้อยลงและปฏิบัติได้จริง เนื่องจากในเบื้องต้นการคำนวณของอียูจะใช้ฐานข้อมูลการส่งออกของแต่ละบริษัทในปี 2548 เป็นเกณฑ์ โดยแต่ละบริษัทห้ามส่งออกเกินราคาและปริมาณที่สูงกว่าปี 2548 ถือเป็นการควบคุมตลาดไม่ให้โตและทำให้ผู้ส่งออกยุ่งยากในการปรับฐานข้อมูล เนื่องจากเวลานี้ราคาวัตถุดิบเปลี่ยนแปลงไป และมีผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะผันผวนไปอยู่ ณ จุดใด ดังนั้นจึงขอให้อียูพิจารณาเงื่อนไขใหม่ที่ไม่ซับซ้อนมากนัก สอง จะเสนอต่อกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งไปหารือกับองค์การการค้าโลก (WTO) ก่อนเส้นตายวันที่ 20 มิถุนายน 2550 เพราะการเรียกเก็บภาษีเอดีของอียูเป็นการกีดกันการค้าอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังระบุว่า นอกจากอียูจะใช้ฐานราคาและปริมาณส่งออกปี 2548 มาบีบแล้ว ยังใช้ฐานกำไรสุทธิที่ 14% ในการคำนวณ ใครกำไรไม่ถึง 14% ถือว่าทุ่มตลาด ซึ่งเงินบาทเป็นอย่างนี้กำไร 10% ก็ถือว่ามากแล้วสำหรับธุรกิจเกษตร ดังนั้นจะขอให้ผ่อนปรนเงื่อนไขให้มีความซับซ้อนน้อยลง หากข้อเสนอของไทยไม่ได้รับการตอบสนอง การส่งออกข้าวโพดหวานของไทยคงได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะอียูเป็นตลาดส่งออกสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของการส่งออกประมาณ 40,000 ล้านบาท/ปี