ในอดีตนมที่ไม่ได้ผ่านการพลาสเจอร์ไรซ์เป็นสาเหตุการเจ็บป่วยร้ายแรงหลายครั้ง นอกจากนี้ สามารถพบแบคทีเรียหลายชนิดปนเปื้อนในน้ำนมดิบเช่น Salmonella E.coli และ Listeria แบคทีเรียเหล่านี้ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ตั้งแต่ มีไข้ อาเจียน ท้องร่วง ไตวาย แท้ง หรือเสียชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก
สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุและผู้มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ดังนั้นกฎหมายด้านอาหารและยาของแคนาดาจึงระบุให้นมที่มีจำหน่ายในแคนาดาต้องผ่านกระบวนการพลาสเจอร์ไรซ์ อย่างไรก็ตาม แคนาดาอนุญาตให้จำหน่ายชีสที่ทำจากน้ำนมดิบเนื่องจากกระบวนการผลิตชีสช่วยจำกัดเชื้อจุลชีพหลายตัวที่อาจปนเปื้อนในน้ำนมดิบ
ในสหรัฐฯ กฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์น้ำนมดิบแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ โดยหลายรัฐห้ามการจำหน่ายน้ำนมดิบ แต่บางรัฐอนุญาตให้ร้านค้าปลีกหรือตลาดนัดเกษตรกรจำหน่ายได้หรือควบคุมการจำหน่ายที่ฟาร์ม
ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) และบทความวิชาการทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเจ็บป่วยจากการบริโภคนมในปี 2543 2550 ระบุว่า การบริโภคผลิตภัณฑ์นมดิบทำให้มีการเจ็บป่วย 42 ครั้งหรือ 75 % จากการเจ็บป่วยจากการบริโภคนม 56 ครั้งในช่วง 8 ปี นอกจากนี้ในปี 2553-2554 มีการเจ็บป่วยจากการบริโภคนมดิบ 18 ครั้งซึ่งมีผู้เจ็บป่วยจำนวน 202 ราย และอีก 24 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะในช่วงดังกล่าวมีการเจ็บป่วยจากการบริโภคนมที่ผ่านการพลาสเจอร์ไรซ์ 1 ครั้ง ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวน 23 ราย และอีก 2 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล