โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เผยรายงานการประเมินสภาพแวดล้อม อามู-ดารยา แม่น้ำสายหลักยาว 2,500 กม. ที่ไหลผ่าน 4 ประเทศในเอเชียกลาง คือ ทาจิกิสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอัฟกานิสถาน เมื่อ 11 ก.ค. ระบุว่าสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศในแต่ละช่วงของแม่น้ำได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากนโยบายการเกษตรของทั้ง 4 ประเทศตลอดช่วง 50 ปีที่ผ่านมา
สาเหตุหลักเกิดจากการใช้น้ำมหาศาลเพาะปลูกฝ้ายเพื่อป้อนเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างมาก หลังยุคอดีตสหภาพโซเวียตล่มสลาย
นอกจากนี้ การใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมีเร่งผลผลิตในการปลูกฝ้ายยังทำให้เกิดการปนเปื้อนในแม่น้ำและทำลายความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ
ส่วนโครงการสร้างเขื่อนทำให้แม่น้ำเปลี่ยนทิศทางจนบางช่วงแห้งขอด ชนพื้นเมืองซึ่งเคยทำประมงน้ำจืดต้องเปลี่ยนอาชีพและวิถีชีวิต และการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรในรอบ 50 ปี จากเดิม 14 ล้านคนในปี 2503 กลายเป็น 50 ล้านคนในปี 2553 ส่งผลให้ภูมิภาคริมแม่น้ำอามู-ดารยาเสี่ยงต่อภัยแล้งอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง และอาจนำไปสู่การทำสงครามแย่งชิงน้ำในอนาคต